เมื่อพูดถึง “ปีปฏิทิน” หลายคนอาจคุ้นเคยกับปฏิทินสากลที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเรียกว่า “ปฏิทินเกรกอเรียน” (Gregorian Calendar) แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในหลายประเทศทั่วโลกยังคงใช้ระบบการนับปีที่แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม ศาสนา และความเชื่อของตนเอง วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจเรื่องราวความเป็นมาของการนับปีในประเทศต่างๆ ที่น่าสนใจ!
1. ประเทศไทย: พุทธศักราช (พ.ศ.)
ในประเทศไทยเราใช้การนับปีแบบ พุทธศักราช ซึ่งเริ่มต้นจากปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน (543 ปีก่อนคริสตกาล) สาเหตุที่ใช้ระบบนี้สะท้อนถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาในวัฒนธรรมไทย โดยปฏิทิน พ.ศ. ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการในช่วงรัชกาลที่ 5 เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของชาติไทย
2. จีน: ปฏิทินจีนและการนับปีนักษัตร
ชาวจีนใช้ระบบการนับปีที่ผูกกับ จักรราศี 12 ปีนักษัตร และยังมีปฏิทินจีนที่อิงกับทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แม้จีนจะรับเอาปฏิทินเกรกอเรียนมาใช้ในปี ค.ศ. 1912 แต่ปฏิทินจีนยังมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมและเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน ซึ่งปี 2024 นี้จะเป็น ปีมะโรง ในระบบนักษัตร
3. อิสราเอล: ปฏิทินฮีบรู
ชาวยิว ใช้ปฏิทินฮีบรูที่นับปีจากการสร้างโลกตามคัมภีร์โตราห์ โดยปี 2024 ในปฏิทินเกรกอเรียนตรงกับปี 5784 ในปฏิทินฮีบรู ระบบนี้ใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา เช่น วันหยุด โรช ฮาชานาห์ (ปีใหม่ยิว)
4. อิสลาม: ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.)
ประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามใช้ระบบ ฮิจเราะห์ศักราช ซึ่งเริ่มต้นจากปีที่ศาสดามูฮัมหมัดอพยพจากนครมักกะห์ไปยังเมดินา (ค.ศ. 622) ปฏิทินอิสลามเป็นปฏิทินจันทรคติ ทำให้ปีฮิจเราะห์สั้นกว่าปีปฏิทินสากลประมาณ 11 วัน
5. ญี่ปุ่น: ระบบปีรัชสมัย (Era Name)
ญี่ปุ่นมีวิธีการนับปีที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้นามรัชสมัยของจักรพรรดิเป็นตัวกำหนด เช่น ปัจจุบันอยู่ในรัชสมัย เรวะ (Reiwa) ซึ่งเริ่มต้นในปี ค.ศ. 2019 ปี 2024 ในญี่ปุ่นจึงเป็นปี เรวะที่ 6
6. อินเดีย: ปฏิทินฮินดู
ในอินเดียมีการใช้ปฏิทินหลากหลาย แต่ปฏิทินที่สำคัญที่สุดคือ ปฏิทินศกรวัฒน์ (Saka Era) ซึ่งเริ่มต้นในปี ค.ศ. 78 และเป็นปฏิทินราชการของประเทศ นอกจากนี้ยังมี ปฏิทินวิกรมสมวัต (Vikram Samvat) ที่นิยมใช้ในวัฒนธรรมและพิธีกรรม
7. เกาหลีเหนือ: ระบบจูเช
เกาหลีเหนือใช้การนับปีแบบ จูเช ซึ่งเริ่มต้นจากปีเกิดของคิม อิลซุง (ปี 1912 ในปฏิทินสากล) ดังนั้นปี 2024 ในปฏิทินสากลจะเป็นปี จูเช 113
สรุป
การนับปีของแต่ละประเทศสะท้อนถึง ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ การเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความงดงามของโลกที่เราอาศัยอยู่