ลดความอ้วนด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ไม่ต้องพึ่งยา หรือโปรแกรมลดน้ำหนักราคาแพง

แชร์บทความนี้

เมื่อพูดถึงการลดน้ำหนัก เดี๋ยวนี้ก็มีหลายโซลูชันให้เลือกปฏิบัติ ทั้งการเข้าคอร์สออกกำลังกาย การอดอาหาร หรือไปถึงขั้นการทำหัตถการบางอย่างเพื่อลดความอยากรับประทานอาหารลง แต่การทำสิ่งเหล่านี้ควรได้รับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะค่อนข้างมีผลกระทบมากต่อร่างกาย หากปฏิบัติไม่ถูกวิธีหรือไม่เหมาะสม

แต่หากไม่ได้ต้องการผลลัพธ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในระยะเวลาสั้น ๆ ก็มีวิธีที่เราสามารถลดน้ำหนักด้วยตัวเองได้ แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากด้วย ซึ่งวิธีที่นำมาฝากกันในวันนี้ขอเพียงแค่อาศัยวินัยในการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

6 วิธีลดความอ้วนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม ไม่เครียด ไม่โยโย่

อันที่จริงแล้ว ความสำเร็จของการลดความอ้วนด้วยวิธีธรรมชาติ มักไม่ได้มาจากการปฏิบัติเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง หากเราออกกำลังกาย แต่ยังรับประทานอาหารเกินความต้องการ ร่างกายก็มีน้ำหนักส่วนเกินไม่จบไม่สิ้น ตรงกันข้าม หากคุมอาหารอย่างดี แต่ไม่เปิดโอกาสให้ร่างกายได้ขยับเขยื้อนเลย ผลลัพธ์ก็อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนและช้าเกินไป ลองมาดู 6 วิธีลดความอ้วนเหล่านี้ แล้วนำไปทำตามให้ครบ รับรองว่ารูปร่างของคุณเปลี่ยนแปลงแน่นอน

  1. ทานครบ 3 มื้อเหมือนเดิม แต่เลือกทานให้เป็น นี่คือวิธีการที่ไม่ต้องอดอาหาร แต่ให้เลือกทานในแต่ละมื้อให้ได้คุณภาพขึ้น ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันสูง อาหารที่ปรุงด้วยการทอด แล้วหันมาทานอาหารที่ใช้การต้มหรือนึ่ง และอาจเน้นอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อให้อิ่มเร็ว และช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย
  2. ปรับเวลาการทานแต่ละมื้อ เน้นปริมาณของมื้ออาหารให้หนักในช่วงเช้าและกลางวัน ส่วนมื้อเย็นไม่ควรรับประทานเยอะ และไม่รับประทานใกล้กับเวลาเข้านอน เพื่อรอให้ระบบเผาผลาญทำงานให้เสร็จสิ้นก่อนเข้านอน จะได้ไม่เสี่ยงเป็นกรดไหลย้อนตามมา
  3. งดทานหวาน พยายามจำกัดอาหารรสหวาน หรือพวกเครื่องดื่มที่เติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไป หากงดแบบ 100 % ไม่ได้ ก็ให้เริ่มจากหวานน้อย หรือหวาน 25 % หรือลองหาแหล่งอาหารอื่นที่ให้น้ำตาลได้ อย่างเช่นผลไม้สดแทน แต่อย่างไรก็ต้องควบคุมปริมาณในการทานเช่นเดิม
  4. ใช้ภาชนะใส่อาหารที่เล็กลง จากที่เคยรับประทานในจานใหญ่จานเดียว ลองเปลี่ยนมาใส่อาหารในจานที่เล็กลง และแบ่งแยกออกเป็นหลาย ๆ จาน ช้อนส้อมก็ใช้ที่มีขนาดเล็กลง การทำแบบนี้เป็นวิธีการทางจิตวิทยา ที่จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และรู้สึกว่าได้ทานอาหารเต็มที่ แม้ความเป็นจริงแล้วจำนวนอาหารจะน้อยกว่าเดิมก็ตาม
  5. ระหว่างวันดื่มน้ำให้มาก ถ้าดื่มก่อนทานมื้ออาหารได้ ก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ที่สำคัญลองดื่มน้ำเปล่าให้เป็นนิสัย จนทดแทนเครื่องดื่มที่มีรสหวานที่เคยทานได้ เพื่อป้องกันแคลอรีและน้ำตาลส่วนเกินที่อาจเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป
  6. ออกกำลังกายควบคู่เมื่อมีโอกาส นึกไว้เสมอว่า การออกกำลังกายควบคู่กับการจัดการเรื่องอาหาร ยังไงก็ต้องดีกว่าการที่ไม่ขยับร่างกายเลย ไม่จำเป็นต้องการเล่นกีฬาจริงจังก็ได้ เพียงแค่แบ่งเวลาระหว่างวันไม่กี่นาทีในการทำกายบริหาร ออกไปเดินหรือวิ่งเบา ๆ วันละ 30-40 นาที ก็เพียงพอ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการลดน้ำหนักด้วยวิธีดังกล่าว อันที่จริงก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย เช่น บางคนจริง ๆ แล้วไม่ได้ทานเยอะ ไม่ได้ทานขนมหรือชานมมากเท่าไร แต่ร่างกายมีปัญหาเรื่องระบบเผาผลาญ หรือบางคนได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยบางอย่าง แบบนี้ก็อาจจะใช้วิธีธรรมชาติได้ผลช้า จึงอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรรู้จักร่างกายและข้อจำกัดของตัวเองให้ดี ก่อนจะเริ่มลงมือลดน้ำหนักแบบมีวินัย