การเลือกขนาดรองเท้าให้พอดีเป็นปัญหาที่หลายคนเจอบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกซื้อรองเท้าจากระบบไซส์ต่างประเทศ เช่น EUR, US, UK หรือ JP คู่มือฉบับนี้จะช่วยให้คุณวัดขนาดเท้าได้อย่างแม่นยำและเลือกไซส์รองเท้าที่เหมาะสม เพื่อความสบายและป้องกันปัญหา เช่น แผลพุพองหรืออาการบาดเจ็บที่เท้า พร้อมเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คุณซื้อรองเท้าได้ตรงไซส์ทุกครั้ง!
ทำไมการเลือกขนาดรองเท้าถึงสำคัญ
การสวมรองเท้าที่ไม่พอดีอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย เกิดแผลพุพอง หรือแม้แต่ปัญหาเท้าในระยะยาว เช่น นิ้วเท้าผิดรูปหรือเล็บเท้าคุด ไม่ว่าคุณจะซื้อรองเท้าผ้าใบ รองเท้าเซฟตี้ หรือรองเท้าส้นสูง การรู้ขนาดเท้าและเข้าใจระบบไซส์สากลจะช่วยให้คุณได้รองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะสม
วิธีวัดขนาดเท้าด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อวัดขนาดเท้าที่บ้านอย่างแม่นยำ:
- เตรียมอุปกรณ์: ใช้กระดาษเปล่า ปากกา ไม้บรรทัด และวางบนพื้นเรียบ
- วาดรอยเท้า: วางเท้าบนกระดาษแล้วลากเส้นรอบเท้าตามรูปจริง
- วัดความยาวและความกว้าง: ใช้ไม้บรรทัดวัดความยาว (จากส้นเท้าถึงปลายนิ้วเท้าที่ยาวที่สุด) และความกว้าง (บริเวณที่กว้างที่สุดของเท้า) เป็นเซนติเมตร วัดทั้งเท้าซ้ายและขวา เพราะอาจมีขนาดต่างกันเล็กน้อย
- หักลบความคลาดเคลื่อน: ลบประมาณ 0.5 ซม. (หรือ 3/16 นิ้ว) เพื่อชดเชยความหนาของปากกาที่ใช้ลาก
- บันทึกผล: จดความยาวและความกว้างของทั้งสองเท้าไว้
เคล็ดลับ: วัดเท้าในช่วงเย็น เพราะเท้ามักจะบวมเล็กน้อยในระหว่างวัน ซึ่งจะช่วยให้ได้ขนาดที่เหมาะสมสำหรับการสวมใส่ทั้งวัน
ทำความเข้าใจระบบขนาดรองเท้าสากล
ขนาดรองเท้าแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค การเข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบ EUR, US, UK และ JP จะช่วยให้คุณเลือกขนาดที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น ด้านล่างนี้คือตารางแปลงขนาดและคำอธิบายของแต่ละระบบ
- วัดขนาดเท้าด้วยกระดาษเปล่า โดยการนำเท้าไปเหยียบบนกระดาษและวาดกรอบรูปเท้าตามขนาดจริง
- เมื่อได้รูปเท้าของตัวเองมาแล้ว ให้เราตีเส้นสมมุติตามรูปตัวอย่างข้างต้น แล้ววัดความยาว (length) และความกว้างของเท้า (width) ทั้งจากข้างซ้ายและข้างขวา จากนั้นจดบันทึกไว้แบบเป็น เซ็นติเมตร (Centimetre)
- หักลบ ความคลาดเคลื่อนจากหัวปากกา ตอนลากเส้นรอบเท้า 3 / 16 นิ้ว หรือ ( ~0.476 cm.)
- เมื่อได้ค่า แล้วสามารถเทียบได้ตามตารางดังนี้ กับหน่วยวัดของ JP เป็น cm. ตามตารางด้านล่างนี้ได้ครับ
Men’s Shoe Sizes | |||
US | UK | Europe | Japanese (cm) |
5.5 | 5 | 38 | 23.5 |
6 | 5.5 | 38.7 | 24 |
6.5 | 6 | 39.3 | 24.5 |
7 | 6.5 | 40 | 25 |
7.5 | 7 | 40.5 | 25.5 |
8 | 7.5 | 41 | 26 |
8.5 | 8 | 42 | 26.5 |
9 | 8.5 | 42.5 | 27 |
9.5 | 9 | 43 | 27.5 |
10 | 9.5 | 44 | 28 |
10.5 | 10 | 44.5 | 28.5 |
11 | 10.5 | 45 | 29 |
11.5 | 11 | 46 | 29.5 |
12 | 11.5 | 46.5 | 30 |
12.5 | 12 | 47 | 30.5 |
Women’s Shoe Sizes | |||
US | UK | Europe | Japanese (cm) |
4.5 | 2 | 34 | 21.5 |
5 | 2.5 | 35 | 22 |
5.5 | 3 | 35.5 | 22.5 |
6 | 3.5 | 36 | 23 |
6.5 | 4 | 37 | 23 |
7 | 4.5 | 37.5 | 23.5 |
7.5 | 5 | 38 | 24 |
8 | 5.5 | 38.5 | 24 |
8.5 | 6 | 39 | 24.5 |
9 | 6.5 | 39.5 | 25 |
9.5 | 7 | 40 | 25.5 |
10 | 7.5 | 41 | 26 |
10.5 | 8 | 42 | 26.5 |
11 | 9 | 43 | 28 |
12 | 10 | 44 | 29 |
13 | 11 | 45 | 30 |
วิธีแปลงขนาดรองเท้า
- EUR (Paris Point): ระบบนี้เริ่มใช้ในฝรั่งเศสช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดย 1 Paris Point เท่ากับ 6.6667 มม.
สูตร: (ความยาวเท้า (มม.) + 15) / 6.6667
ตัวอย่าง: เท้ายาว 250 มม. –> (250 + 15) / 6.6667 ≈ 39.75 เลือก EUR 40 - UK (English Linear Measure): ระบบที่เก่าแก่ที่สุด เริ่มใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1324 โดยอิงจาก Barleycorn (1/3 นิ้ว หรือ 8.46 มม.) ครึ่งไซส์ (เพิ่ม 4.23 มม.) ถูกเพิ่มในปี ค.ศ. 1880 เพื่อความละเอียด
สูตร: (((ความยาวเท้า (มม.) + 15) / 25.4) x 3) – 25
ตัวอย่าง: เท้ายาว 250 มม. –> (((250 + 15) / 25.4) x 3) – 25 ≈ 6.39 เลือก UK 6.5 - US (American Linear Measure): คล้ายระบบ UK แต่เริ่มที่ขนาดเล็กกว่า โดยทั่วไป US ≈ UK + 1 แต่ขึ้นอยู่กับแบรนด์
สูตร: (((ความยาวเท้า (มม.) + 15) / 25.4) x 3) – 24
ตัวอย่าง: เท้ายาว 250 มม. –> (((250 + 15) / 25.4) x 3) – 24 ≈ 7.39 เลือก US 7.5 - JP (Japanese Linear Measure): ระบบที่ง่ายที่สุด ใช้หน่วยเซนติเมตรตรงๆ ไม่ต้องแปลง เช่น เท้ายาว 25 ซม. = JP 25
Trick
ในกรณีที่ท่านจะนำไปเทียบไซส์สำหรับรองเท้าหุ้มส้น หรือหุ้มข้อต่างๆ ทาง thai-safetywiki แนะนำให้ทำการ บวกขนาดสำหรับปลายเท้า 1-1.5 เซนติเมตรโดยประมาณ สำหรับท่านที่มีความกว้างของเท้าปกติ แต่สำหรับท่านที่มีความกว้างของเท้ามากหรือเป็นคนที่มีเท้าแบน แนะนำให้บวกขึ้นอีก 2 เซนติเมตร เช่นถ้าท่านวัดเท้าตัวเองได้ 25 เซนติเมตร ต้องการสั่งซื้อรองเท้าหุ้มส้นเช่นรองเท้าเซฟตี้ รองเท้ากีฬา รองเท้าทำงานต่างๆ เราจะต้องสั่งซื้อขนาด 26-26.5 เซนติเมตร (JP) หรือขนาด 8, 8.5 (US) หรือ UK 7.5, 8 (UK) หรือ 41, 42 (EU) แล้วแต่ความเคยชินหรือความต้องการความกระชับแค่ไหน แต่สำหรับผู้ที่มีหน้าเท้ากว้าง หรือเท้าแบน จะต้องบวกอีก 2 เซนติเมตร ซึ่งก็คือขนาด 27 เซนติเมตร (JP) หรือ 9 (US) หรือ 8.5 (UK) หรือ 42.5 (EU)
โดยการเพิ่มขนาดนี้เพื่อป้องกันปลายเท้าชนบริเวณด้านหน้าของรองเท้า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากการเดิน หรือทำกิจกรรม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเล็บหลุดหรือเล็บม่วงถ้ามีการสวมใส่รองเท้าเป็นเวลานาน
ที่มาของการวัดไซส์ และสูตรคำนวณหาเบอร์รองเท้า
เทียบเบอร์รองเท้า EUR
EU ย่อมาจาก Paris Point หรือ (Continental) European Sizing คือ หน่วยเทียบไซส์รองเท้าที่ได้รับความนิยมไม่แพ้หน่วยอื่น พบได้บ่อยในรองเท้าแบรนด์สัญชาติยุโรป ยกเว้นประเทศอังกฤษ ผู้ที่คิดค้นหน่วยเทียบไซส์รองเท้าประเภทนี้คือชาวฝรั่งเศส และนำมาใช้กันแพร่หลายในช่วงกลางศตวรรษที่ 19.
ที่มาของหน่วยวัด The Paris Point มาจากความยาวของรอยเย็บรองเท้า 1 ฝีเย็บ ที่มีความยาวประมาณ 6.6667 มิลลิเมตร โดยเบอร์รองเท้า EUR จะเริ่มต้นที่ 15 ฝีเย็บ และมีวิธีคำนวณด้วยการเอา
สูตรคำนวณหาเบอร์รองเท้า EUR
(ความยาวเท้าจริง (หน่วยมิลลิเมตร) + 15) / 6.6667
เทียบเบอร์รองเท้า UK
UK ย่อมาจาก English Linear Measure คือ ระบบเทียบไซส์รองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ภายใต้การคิดค้นของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่สอง ที่ทรงนำมาประยุกต์ใช้ในปี ค.ศ. 1324 เพื่อความสะดวกในการสั่งทำสั่งตัดรองเท้า
ที่มาของหน่วยวัด UK
กษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงบัญญัติให้ความยาวของเม็ดข้าวบาร์เลย์ (Barleycorn) จำนวน 3 เม็ดเรียงกัน จะมีขนาดเท่ากับความกว้างของนิ้วหัวแม่โป้งเฉลี่ยของชายชาวอังกฤษจำนวน 1 นิ้ว เป็นอีกหนึ่งที่มาของหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือประมาณ 25.4 มิลลิเมตรในปัจจุบัน
เบอร์รองเท้า UK ขยับความยาวขึ้นเบอร์ละ 1 Barleycorn หรือประมาณ 8.46 มิลลิเมตร
แล้วครึ่งเบอร์ ( 0.5 ) มาจากไหน ?
เบอร์รองเท้า UK แต่ละเบอร์จะมีความยาวเพิ่มขึ้นเบอร์ละ 1 Barleycorn หรือ 1/3 นิ้ว เทียบได้ประมาณ 8.46 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าแต่ละเบอร์มีความยาวห่างกันค่อนข้างเยอะ ในช่วงปี ค.ศ. 1880 จึงมีการเพิ่มขนาด “ครึ่งเบอร์” เพื่อให้ความยาวของเบอร์รองเท้า UK ขยับขึ้นทีละ 4.23 มิลลิเมตรแทน ช่วยทำให้ไซส์ UK ละเอียดขึ้น
สูตรคำนวณหาเบอร์รองเท้า UK ผู้ใหญ่ (สำหรับผู้ชาย)
(((ความยาวเท้าจริง (หน่วยมิลลิเมตร) + 15) / 25.4) x 3) – 25
เทียบเบอร์รองเท้า US
US ย่อมาจาก American Linear Measure คือ ระบบขนาดรองเท้าที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งกำหนดขึ้นมาใช้ในช่วงกลางยุคศตวรรษที่ 19 หน่วยตารางเทียบไซส์รองเท้ามาตรฐาน US อิงกับระบบวัดของ UK เพียงแต่ไซส์รองเท้าของหน่วย US จะเริ่มต้นที่ขนาดเล็กที่สุดที่ 3 11/12 นิ้ว ในขณะที่ UK จะเริ่มที่ 4 นิ้ว
ที่มาของหน่วยวัด UK
เบอร์รองเท้า US ใช้พื้นฐานการวัดมาจากเบอร์รองเท้า UK เป็นหลัก อีกทั้งมีการแบ่งเป็นเบอร์เด็กและเบอร์ผู้ใหญ่เช่นกัน แตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่เบอร์รองเท้า US จะเริ่มต้นที่เบอร์ 1 US Adult Size มีความยาวพื้นในที่ 7 13/16 นิ้ว หรือราว 194.7 มิลลิเมตร จากนั้นเพิ่มทีละครึ่งไซส์ด้วยการเพิ่มความยาว 4.23 มิลลิเมตร ต่อครึ่งไซส์ ใกล้เคียงกับระบบ UK
สูตรคำนวณหาเบอร์รองเท้า US ผู้ใหญ่ (สำหรับผู้ชาย)
(((ความยาวเท้าจริง (หน่วยมิลลิเมตร) + 15) / 25.4) x 3) – 24
ด้วยความที่ระบบ UK กับ US มีวิธีวัดที่ใกล้เคียงกัน ทำให้มีหลักการง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันก็คือการเอาเบอร์รองเท้า UK ของตัวเอง “บวก 1” ก็จะได้เป็นเบอร์รองเท้า US ไปเลย แต่จริงๆแล้วในการผลิตรองเท้าในแต่ละแบรนด์สินค้ามีความต่างกัน จึงไม่แนะนำให้ใช้วิธี +1 จาก Size US
เทียบเบอร์รองเท้า JP
JP หรือ Japanese Linear Measure คือ ระบบเทียบเบอร์รองเท้าของญี่ปุ่นที่อิงกับหน่วยเซนติเมตร ทำให้เป็นหน่วยเทียบเบอร์รองเท้าที่ไม่ต้องแปลงค่าใด ๆ
การเลือกไซส์ ต้องเลือกอย่างไร ต้องเผื่อเท่าไหร่ ?
รองเท้าเซฟตี้แต่ละรุ่นหรือยี่ห้อ อาจมีการใช้หัวรองเท้าไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับดีไซน์ หัวรองเท้าเป็นแบบกว้าง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเผื่อ Size แต่ถ้าเป็นรองเท้าทรงสปอร์ต หัวรองเท้าส่วนใหญ่มักแคบ จึงควรเผื่อขนาดไว้อย่างน้อยครึ่ง Size และหากเป็นคนหน้าเท้ากว้าง ก็ควรจะเผื่อเพิ่มขึ้นอีก
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
- ใช้สูตร “US = UK + 1”: ไม่แม่นยำเสมอไป เพราะแต่ละแบรนด์มีขนาดต่างกัน
- ละเลยความกว้างเท้า: ความกว้างสำคัญไม่แพ้ความยาว โดยเฉพาะสำหรับเท้ากว้าง
- ซื้อโดยไม่วัดเท้า: ขนาดเท้าอาจเปลี่ยนแปลงตามเวลา ควรวัดทุกครั้งก่อนซื้อ
ทำไมการเลือกขนาดที่ถูกต้องถึงป้องกันการบาดเจ็บ
รองเท้าที่คับเกินไปอาจทำให้เกิดแผลพุพอง เล็บเท้าคุด หรือนิ้วเท้าผิดรูป ส่วนรองเท้าที่หลวมเกินไปอาจทำให้เท้าเสียดสีและขาดความมั่นคง การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยรองรับเท้า ลดความเมื่อยล้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรม เช่น วิ่งหรือทำงานที่ต้องใช้รองเท้าเซฟตี้
สรุป
การเลือกขนาดรองเท้าไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! ด้วยการวัดเท้าอย่างแม่นยำ เข้าใจระบบไซส์สากล และใช้เคล็ดลับจากคู่มือนี้ คุณจะได้รองเท้าที่ใส่สบายและเหมาะสมทุกครั้ง ไม่ว่าคุณจะซื้อรองเท้าผ้าใบ รองเท้าเซฟตี้ หรือรองเท้าแฟชั่น คู่มือนี้จะช่วยให้คุณก้าวเดินอย่างมั่นใจ
สำหรับเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับรองเท้าหรือการเลือกซื้อรองเท้าเซฟตี้ ลองดูข้อมูลจากร้านค้าชั้นนำหรือตารางไซส์ของแบรนด์ที่คุณสนใจ สุขสันต์กับการเลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่!
บทความที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
วิธีเลือกรองเท้าเซฟตี้ รองเท้านิรภัย
วิธีวัดขนาด size รองเท้าเซฟตี้ด้วยตัวเอง
ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลและภาพจาก