ถุงมือยาง เป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลชนิดหนึ่ง ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อป้องกันมือจากการสัมผัสสิ่งต่างๆ หรือใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทางการแพทย์ สำหรับงานอุตสาหกรรม และงานครัวเรือนนั้น จะมีการใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น ใช้ป้องกันสารเคมี ใช้ในการสัมผัสอาหาร แม้กระทั่งใช้ในการปกป้องชิ้นงานจากการปนเปื้อน เป็นต้น ปัจจุบันถุงมือยางธรรมชาติ มีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งคุณภาพ ความหนา ความยาว ชนิดของยางที่ใช้ผลิต ประกอบสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้มีความต้องการถุงมือยางเพิ่มมากขึ้น ทั้งนำมาใช้ในงานตรวจโรค และใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้มีการขายถุงมือยางไม่ได้มาตรฐานในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้งราคาก็สูงขึ้นตามไปด้วย ในบทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับถุงมือยางธรรมชาติในหลากหลายแง่มุม เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการเลือกซื้อ เลือกใช้ เพื่อให้ได้ถุงมือยางธรรมชาติที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ
ประเภทและการใช้งานของถุงมือยาง แบ่งได้ดังนี้
- ถุงมือยางทางการแพทย์ ( Medical Glove ) เป็นถุงมือชนิดใช้แล้วทิ้ง
เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบ่งตามวัถถุประสงค์ของการใช้งานได้ 2 ประเภทดังต่อไปนี้- ถุงมือยางสำหรับงานผ่าตัด ( Surgical Glove )
ถุงมือยางชนิดนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อ 100%
ลักษณะของถุงมือมีความบาง ให้การสัมผัสที่ดี มี น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง
มีขนาดความยาวตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก และไม่มีลายที่ฝ่ามือ นิยมใช้ในงาน
ผ่าตัดและศัลยรรม การบรรจุแบบคู่อยู่ในถุงสูญญากาศเพื่อป้องกันการปนเปื้อน - ถุงมือยางสำหรับงานตรวจโรคทั่วไปภายนอก ( Examination Glove )
ถุงมือยางชนิดนี้นิยมใช้ได้ทั่วไป มีทั้งแบบมีแป้งและไม่มีแป้ง มีลักษณะบางให้ความกระชับ น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง แต่จะมีขนาดที่สั้นกว่าถุงมือสำหรับงานผ่าตัด
มีความยาวตั้งแต่ 9-12 นิ้ว เมื่อวัดจากปลายนิ้วกลางถึงขอบ
มีทั้งแบบมีลายและไม่มีลายที่ฝ่ามือ เหมาะสำหรับงานตรวจโรคภายนอก
งานป้องกันการสัมผัส หรือการใช้ถุงมือชนิดไม่มีแป้งในการสัมผัสอาหาร เป็นต้น
- ถุงมือยางสำหรับงานผ่าตัด ( Surgical Glove )
- ถุงมือยางสำหรับงานอุตสาหกรรม ( Industries Glove ) ถุงมือยางสำหรับงานอุตสาหกรรม มีลักษณะเด่น คือ ถุงมือจะมีความหนา แข็งแรง ทนทาน มีซับในและไม่มีซับในก็ได้ สามารถทำความสะอาดและนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ใช้ เหมาะสำหรับ งานที่มีความหยาบ พื้นผิวที่ขรุขระ งานป้องกันสารเคมี งานทำความสะอาด งานซ่อมบำรุงเป็นต้น
- ถุงมือยางสำหรับงานครัวเรือน ( Household Glove ) มีความหลากหลาย ทั้งในด้านสี ความหนา ความยาว มีทั้งแบบสั้นและยาวถึงข้อศอก บางรุ่นมีผ้าซับในเพื่อเพิ่มความแข็งแรง รวมถึงการออกแบบลายที่ฝ่ามือเพื่อกันลื่น เหมาะสำหรับงานครัวเรือน งานล้างทำความสะอาดทั่วไป สามารถล้างและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
การพิจารณาเลือกซื้อถุงมือยางที่มีคุณภาพต้องคำนึงเรื่องใดบ้าง
- ลักษณะงานที่ต้องการใช้ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงอันตราย ความจำเป็นหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น ถ้าต้องการถุงมือเพื่อประกอบอาหาร ควรเลือกใช้ถุงมือยางแบบไม่มีแป้ง เพื่อป้องกันผงแป้งหลุดไปในอาหาร หรือถ้าเป็นหน้างานที่มีความเสี่ยงบาดคม ต้องพิจารณาถึงถุงมือที่มีความหนา ถ้าเป็นงานสารเคมีต้องพิจารณาถึงสารเคมีที่สัมผัสว่าถุงมือยางสามารถป้องกันสารเคมีชนิดนั้นได้หรือไม่ เป็นต้น
- ความหนาและบางของถุงมือยาง ถุงมือยางยิ่งหนา ยิ่งทนทาน แต่ให้การสัมผัส การหยิบจับที่ไม่ดี จึงเหมาะกับงานหนัก มีคม หรือเป็นการหยิบวัตถุขนาดใหญ่ ในทางกลับกันยิ่งถุงมือมีความบางมากเท่าไร ก็จะให้การสัมผัสที่ดีมากเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง
- ลักษณะโครงสร้างและส่วนประกอบของถุงมือ อย่างที่เราทราบกันดีว่าถุงมือยาง มีหลากหลายชนิด ทั้งแบบมีแป้ง ไม่มีแป้ง มีซับในไม่มีซับใน มีลายไม่มีลาย ดังนั้น จึงต้องพิจารณาลักษณะต่างๆดังต่อไปนี้
- ถุงมือยางแบบมีแป้ง จะทำให้ผู้ใช้สวมใส่ได้ง่าย หากมีเหงื่อออกที่มือก็ยังสามารถทำงานได้คล่องแคล่วอยู่ เพราะแป้งในถุงมือจะช่วยดูดซับความชื้นในขณะที่เราสวมใส่ถุงมือ ทั้งยังทำหน้าที่หล่อลื่นอีกด้วย
- ถุงมือยางแบบไม่มีแป้ง มีความเหนียว แข็งแรงทนทาน สะอาดกว่า ถุงมือได้ผ่านการล้างคลdอรีนที่มีความเข้มข้นสูง จึงมั่นใจในความสะอาดและความอนามัยได้
- ถุงมือยางแบบมีซับใน ซับในส่วนใหญ่วัสดุจะเป็นผ้า สามารถซับเหงื่อที่มือได้ดี มีพื้นผิวสัมผัสภายในนุ่ม ไม่รู้สึกฟืดมือ ช่วยให้ใส่สบาย และสามารถใส่ทำงานได้ตลอดทั้งวัน
- ถุงมือยางแบบไม่มีซับใน โดยทั่วไป สามารถใช้ในงานทั่วไป ให้ง่ายต่อการใช้งาน มีน้ำหนักเบากว่าแบบมีผ้าซับใน เหมาะสำหรับใช้ในงานทำความสะอาดได้ดี ระบายอากาศ ระบายความชื้นได้ดี
- ลายที่ฝ่ามือและนิ้วมือ ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการหยิบจับ พื้นผิวที่มีความลื่นจากน้ำมัน หรือสารหล่อลื่นอย่างอื่น
- มาตรฐานของถุงมือยาง ถุงมือยางที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ควรมีการระบุเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ ไว้บนบรรจุภัณฑ์ หรือที่ตัวสินค้า เช่น ชื่อผู้ผลิต, ตราสินค้า, เครื่องหมายการรับรองคุณภาพ, AQL ,วันผลิตวันหมดอายุ เป็นต้น เพื่อความมั่นใจว่าจะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ไม่ถูกหลอกลวงจากผู้ขาย
วิธีการในการเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานถุงมือ
- สถานที่จัดเก็บควรแห้ง และระบายอากาศได้ดี
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความชื้น ความร้อน และแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการแกะจากบรรจุภัณฑ์โดยไม่ได้ใช้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
สุดท้านนี้เมื่อต้องเลือกใช้ถุงมือยางก็ควรเลือกให้ตรงกับลักษณะงานที่ต้องการ และมีมาตรฐานรองรับ ถ้าจะให้ดีควรเลือกซื้อแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จัก ก็จะสามารถตอบโจทย์การทำงานได้ง่าย บอกลาอุปสรรค์ในการทำงานได้เลย