เชื่อว่าตอนนี้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศไทยเริ่มมีอุณหภูมิที่ต่ำลง อากาศเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้าสู่ช่วง ปลายฝนต้นหนาว ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ pm2.5 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายๆพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย ซึ่งตอนนี้หน้ากากกันฝุ่นและกันไวรัส มีมากมายหลายแบบให้เลือก เราจะมาแนะนำกันครับ ว่าเลือกแบบไหนใส่ได้หายใจสะดวก และป้องกันได้ดีเหมาะกับเรามากที่สุด มาช่วยให้เลือกได้ง่ายๆกันครับ
ตารางแนะนำเลือกใช้หน้ากาก
ประเภทหน้ากาก |
รูปตัวอย่างประกอบ |
ข้อดี |
ข้อเสีย |
ประสิทธิภาพการกันไวรัส |
ประสิทธิภาพการกัน PM2.5 |
หน้ากากอนามัยแบบ แผ่น Dust Pleat Mask ( น้อยกว่า 3 ชั้น ) |
1.ราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับ หน้ากากแบบอื่นๆ 2.หาซื้อได้ง่าย |
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นต่ำ กันได้แต่อนุภาค ขนาดใหญ่ 2.ไม่แนบกระชับหน้า มีช่องให้ฝุ่นหรือเชื้อโรคเข้าได้ |
20% - 60% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบ เทียบกับใบหน้าผู้ใช้ |
น้อยกว่า 20% |
|
หน้ากากอนามัยแบบเเผ่น Surgical Pleat Mask ( มากกว่า 3 ชั้น ) |
1.ราคาถูก 2.หาซื้อได้ง่าย 3.แผ่นกรองผ่านการรับรองมาตรฐาน Bacterial Filer Efficeincy ( BFE ),Particle Filtration Efficiency ( PFE ), |
1.ไม่แนบกระชับหน้า มีช่องให้ฝุ่นหรือเชื้อโรคเข้าได้ |
60% - 80% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
30% - 60% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
|
หน้ากากผ้า |
|
1.ราคาถูก |
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นต่ำ กันได้แต่อนุภาค ขนาดใหญ่ 2.ไม่แนบกระชับหน้า มีช่องให้ฝุ่นหรือเชื้อโรคเข้าได้ 3.ซึมน้ำได้เร็ว |
น้อยกว่า 30% |
น้อยกว่า 10% |
หน้ากากกันฝุ่น วัสดุฟองน้ำ |
1.รูปทรงสวย ใส่กระซับในหน้า 2.น้ำหนักเบา |
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นต่ำ กันได้แต่อนุภาค ขนาดใหญ่ 2.ราคาแพง |
น้อยกว่า 30% |
น้อยกว่า 10% |
|
หน้ากากกันฝุ่น 2D วัสดุ PP ( Polypropylyne ) |
1.รูปทรงสไตล์เกาหลี 2.ราคาถูกกว่ารูปทรงเดียวกัน ที่มีมาตรฐานรับรอง |
1.ประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่นปานกลาง ขึ้นอยู่กับ รูปทรงของใบหน้าที่รับกับทรงของหน้ากาก |
60% - 80% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
40% - 70% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
|
หน้ากากกันฝุ่นขึ้นรูป วัสดุ PP ( Polypropylyne ) แบบ 3 ชั้น ขึ้นไป |
1.รูปทรง ใส่สบาย หายใจสะดวก 2.ราคาถูกกว่ารูปทรงเดียวกัน ที่มีมาตรฐานรับรอง |
1.ไม่ผ่านการรับรอง 2.อาจจะเกิดการระคายเคือง กับผิวหน้าได้ง่าย |
80% - 90% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
60% - 80% ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบหน้ากากเทียบกับหน้าผู้ใช้ |
|
หน้ากากกันฝุ่น มาตรฐาน N90/FFP1/KN90/KF80 |
|
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นขนาดเล็กได้ 2.หายใจสะดวกกว่า N95 3.ผ่านการรับรองมาตรฐาน |
1.ราคาค่อนข้างสูง 2.ประสิทธิภาพการกันฝุ่น ด้อยกว่า N95 ในขณะที่ราคาใกล้เคียงกัน |
เฉลี่ย 80% |
เฉลี่ย 80% |
หน้ากากกันฝุ่น มาตรฐาน N95/FFP2/KN95/KF94 |
|
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นขนาดเล็กได้ 2.ผ่านการรับรองมาตรฐาน 3.รูปทรง หายใจสะดวก 4.รุ่นของ KF94 มีมาตรฐานการระคายเคืองต่อ ผิวหน้า 5.รุ่น KF94 เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน |
1.ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับหน้ากากรุ่นอื่นๆ 2.มาตรฐาน N95 ส่วนใหญ่จะหายใจลำบาก 3.รูปทรงแนบกระชับกับใบหน้า ทำให้รู้สึกใส่ได้ไม่นาน |
เฉลี่ย 95% |
เฉลี่ย 95% |
หน้ากากแบบใช้ไส้กรอง P100 |
1.ประสิทธิภาพกันฝุ่นขนาดละเอียดได้ดี 2.ผ่านการรับรองมาตรฐาน 3.ใช้ได้นาน |
1.ราคาค่อนข้างสูง 2.ต้องมีการดูแลรักษาทำความสะอาด |
เฉลี่ย 99% |
เฉลี่ย 99%
|
ความเสี่ยงจากความหนาแน่นของฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศ
สภาพแวดล้อมนั้นแตกต่างกัน มีความเสี่ยงของการมีการแพร่ของฝุ่นและเชื้อโรคมากน้อยเพียงไร อาทิ หากบริเวณที่ใกล้จุดกำเนิด หรือในบริเวณที่แคบ ความเข้มข้นของฝุ่นและเชื้อโรคในอากาศก็จะมาก การเลือกหน้ากากก็ควรจะเลือกหน้ากากที่มีอัตราการรั่วต่ำ หรือมีค่า Average Protection Factor (APF)* สูง
หากท่านใด สงสัยเกี่ยวกับการเลือกหน้ากากไปใช้งานให้ละเอียดกว่านี้ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มได้ที่
หมวดความรู้เกี่ยวกับ อุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ (Respirator) คลิกเลย !!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.cdc.gov/niosh/npptl/pdfs/UnderstandingDifference3-508.pdf
www.cdc.gov/niosh/npptl/RespiratorInfographics.html