กระเทียม…สมุนไพรพื้นบ้านที่กลายเป็น Superfood ระดับโลก

แชร์บทความนี้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสสุขภาพทั่วโลกมุ่งไปสู่การบริโภคอาหารจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติบำรุงร่างกายแบบองค์รวม หนึ่งในอาหารที่ได้รับการยอมรับจากทั้งวงการแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนทางเลือกคือ “กระเทียม” (Garlic) ที่ไม่ได้มีดีแค่กลิ่นเฉพาะตัว แต่ยังอัดแน่นด้วยสารอาหารและสารออกฤทธิ์ที่ส่งผลดีต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย

กระเทียมสามารถบริโภคได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสด ดอง กระเทียมดำ หรือน้ำมันกระเทียม ซึ่งแต่ละรูปแบบมีจุดเด่นทางโภชนาการเฉพาะตัวที่เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่ต่างกัน บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงคุณประโยชน์ของกระเทียมในแต่ละแบบ เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้เหมาะกับเป้าหมายสุขภาพของคุณ


🧄 กระเทียมสด: แหล่งอัลลิซินบริสุทธิ์ เสริมภูมิคุ้มกันอย่างทรงพลัง

จุดเด่นทางโภชนาการ:

  • กระเทียมสดอุดมด้วยสาร อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเกิดจากเอนไซม์ alliinase เมื่อกระเทียมถูกบด สับ หรือเคี้ยว

  • อัลลิซินมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และปรสิต

  • มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL และเพิ่ม HDL

  • ลดความดันโลหิต และเสริมสุขภาพหัวใจ

  • กระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริมระบบภูมิคุ้มกัน

คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (USDA):

  • พลังงาน: 149 kcal

  • โปรตีน: 6.36 g

  • คาร์โบไฮเดรต: 33.06 g

  • ไฟเบอร์: 2.1 g

  • วิตามิน B6: 1.24 mg (95% RDI)

  • แมงกานีส: 1.67 mg (72% RDI)

  • ซีลีเนียม: 14.2 mcg (26% RDI)

ข้อแนะนำในการบริโภค:

  • สับกระเทียมสดแล้วพักไว้ 5-10 นาที ก่อนปรุงหรือกินสด จะช่วยให้เกิดอัลลิซินสูงสุด

  • หลีกเลี่ยงการปรุงด้วยความร้อนจัด เพราะจะทำลายอัลลิซิน


🧄 กระเทียมดอง: โปรไบโอติกจากธรรมชาติ ดีต่อลำไส้และระบบย่อย

กระบวนการ: กระเทียมดองผ่านการหมักโดยแบคทีเรียกรดแลกติก (Lactic acid bacteria) ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่พบในโยเกิร์ตหรือกิมจิ

จุดเด่นทางสุขภาพ:

  • เสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ (Probiotic)

  • ส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก

  • ช่วยให้การดูดซึมแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก และแคลเซียมดีขึ้น

  • ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง

สารสำคัญ:

  • ยังคงมีสารอัลลิซินในระดับหนึ่งหากหมักในอุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสม

  • เพิ่มกรดแลกติก (Lactic acid) ที่ช่วยยับยั้งเชื้อก่อโรคในลำไส้

คำแนะนำ:

  • เลือกกระเทียมดองที่ไม่ใส่น้ำตาลและเกลือมากเกินไป

  • หากทำเองควรใช้การหมักธรรมชาติ ไม่ใช้สารกันบูด


⚫ กระเทียมดำ: ซอฟต์ หอมหวาน แต่เปี่ยมด้วยพลังแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ

กระบวนการผลิต: การนำกระเทียมสดไปอบในอุณหภูมิประมาณ 60–90°C ความชื้นสูง (70–90%) เป็นเวลา 30–90 วัน โดยไม่ใช้สารเคมี กระบวนการนี้ทำให้กระเทียมมีสีดำ นุ่ม หวานคล้ายผลไม้แห้ง และมีกลิ่นเฉพาะ

จุดเด่นทางโภชนาการ:

  • มี S-allyl cysteine สูงกว่าแบบสด ซึ่งมีความเสถียรและดูดซึมได้ดี

  • เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับกระเทียมสด

  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมระดับอินซูลิน

  • ช่วยลดอาการอักเสบในระดับเซลล์

  • ลดความเครียดออกซิเดชันในผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้มีความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

คำแนะนำ:

  • เหมาะรับประทานเป็นของว่างหรือผสมในอาหารสุขภาพ เช่น โยเกิร์ต สมูทตี้ หรือแซนด์วิช

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากระเพาะ เพราะไม่ระคายเคืองเหมือนกระเทียมสด


🧴 น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil): ตัวช่วยบำรุงหัวใจและข้อจากกรดไขมันดี

รูปแบบ: สกัดจากกระเทียมโดยใช้วิธี cold-pressed หรือใช้การแช่ในน้ำมันพืชคุณภาพสูง เช่น น้ำมันมะกอก

จุดเด่นด้านสุขภาพ:

  • มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวดีต่อหัวใจ เช่น Omega-9, Omega-6

  • น้ำมันช่วยพาสารอัลลิซินเข้าสู่เซลล์ได้ดีขึ้น

  • มีฤทธิ์ต้านอักเสบและช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ

  • ใช้ทาภายนอกในบางสูตรเพื่อบรรเทาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ

ข้อควรระวัง:

  • ไม่ควรใช้ผัดในอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้ไขมันดีเปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์

  • ควรเลือกแบรนด์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ และไม่มีการเจือปนสารเติมแต่ง


🟢 เปรียบเทียบรูปแบบกระเทียมที่เหมาะกับเป้าหมายสุขภาพ

 

รูปแบบกระเทียม สารเด่น เหมาะกับใคร / ประโยชน์เฉพาะทาง
กระเทียมสด Allicin, B6, Manganese เสริมภูมิคุ้มกัน ลดความดัน ช่วยต้านไวรัส
กระเทียมดอง Lactic acid bacteria เสริมลำไส้ เพิ่ม Probiotic สุขภาพลำไส้
กระเทียมดำ SAC, Polyphenols เพิ่มพลังงาน ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเครียด
น้ำมันกระเทียม Omega-9, Allicin extract ลดไขมันในเลือด บำรุงข้อ หัวใจ ระบบประสาท

✅ ข้อควรรู้เพิ่มเติม:

  • กระเทียมอาจรบกวนการออกฤทธิ์ของยาละลายลิ่มเลือด เช่น Warfarin ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

  • ควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ: กระเทียมสดวันละ 1–2 กลีบ หรือกระเทียมดำไม่เกิน 2 หัวต่อวัน

  • ไม่แนะนำให้ทานกระเทียมสดตอนท้องว่าง หากมีปัญหาเรื่องกระเพาะ


📚 แหล่งอ้างอิง:

  • USDA FoodData Central

  • Journal of Medicinal Food (2017). “Black Garlic: A Critical Review of Studies on Its Nutritional and Functional Properties”

  • Journal of Nutrition (2001). “Garlic and Cardiovascular Disease”

  • Molecules (2020). “Health Effects of Garlic: A Narrative Review”


หากคุณเป็นสายสุขภาพที่มองหาวิธีเพิ่มคุณค่าอาหารในชีวิตประจำวัน ลองเลือก “กระเทียม” รูปแบบที่ใช่กับเป้าหมายของคุณดูสิครับ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ หรือดูแลหัวใจ กระเทียมก็เป็นผู้ช่วยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม

พายุฤดูร้อนคืออะไร ติดตามการเตือนภัยเรื่องพายุฤดูร้อนได้ยังไงและวิธีการเตรียมตัว

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้พายุฤดูร้อนคือ พายุฤดูร้อน (Tropical Cyclone) เป็นสภาพอากาศโดยมากจะ

อ่านเพิ่มเติม »

ขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร ไม่ให้เครื่องดับ ถ้าเครื่องดับทำยังไง และหลังลุยน้ำแล้วต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้จากสถานการณ์ฝนตกหนักล่าสุด ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ทางส

อ่านเพิ่มเติม »

แอมโมเนียคือ หากเกิดการรั่วไหล อันตรายแค่ไหนและอุปกรณ์ป้องกัน Ammonia

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้แอมโมเนียเป็นก๊าซไม่มีสี มีกลิ่นฉุน ประกอบด้วยไนโตรเจนและไฮโดรเจน ม

อ่านเพิ่มเติม »

การใช้ยาสเตียรอยด์ – ข้อดี ข้อเสีย รู้ถึงผลข้างเขียงระยะยาวก่อนใช้

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้ ยาสเตียรอยด์เป็นกลุ่มยาที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการ

อ่านเพิ่มเติม »