คาร์บอนฟุตปรินท์ (Carbon Footprint) คือ การวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gases) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของ บุคคล, องค์กร, หรือ ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ ส่งผลทำให้เกิดการเพิ่มอุณหภูมิของโลก (global warming) และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (climate change).
คาร์บอนฟุตปรินท์นับจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาในกระบวนการผลิตสินค้าหรือบริการ หรือในการใช้งานแต่ละรูปแบบ ซึ่งก๊าซเรือนกระจกที่นำมาพิจารณามีอยู่ 7 ตัวด้วยกันคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ก๊าซไนตรัส ก๊าซฟลูออไรคาร์บอน ก๊าซเปอร์ฟลูออกโรคาร์บอน ก๊าซซัลเฟอร์เฮะซะฟลูออไรด์ และก๊าซไนโตรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้จะมีผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อนแตกต่างกัน โดยมีการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นตัวกำหนดค่าศักยภาพ ซึ่งจะมีค่าศักยภาพเท่ากับ 1 หน่วยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีการปล่อยก๊าซมีเทนสู่อากาส 1 กิโลกรัม ซึ่งจะเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 28 กิโลกรัมเลยทีเดียว
การลดคาร์บอนฟุตปรินท์สำหรับองค์กรเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและโลกใบนี้โดยรวม องค์กรควรมีแนวทางที่องค์กรสามารถดำเนินการเพื่อลดคาร์บอนฟุตปรินท์ดังนี้
- วัดและประเมินโปรไฟล์คาร์บอนฟุตปรินท์: ทำการวัดประเมินคาร์บอนฟุตปรินท์ที่กำลังเกิดขึ้นจากกิจกรรมและประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยประเมินทั้งการผลิตสินค้าและการให้บริการ.
- ตั้งเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตปรินท์: กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนฟุตปรินท์, เช่นลดการใช้พลังงานที่มาจากแหล่งหลัก, การลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล, หรือการลดการผลิตขยะ.
- การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูง: ใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นการลงทุนในพลังงานทดแทน, การใช้เทคโนโลยีที่ลดการใช้พลังงาน.
- การปรับปรุงกระบวนการผลิต: พัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้วัตถุดิบและพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก.
- การสนับสนุนการขนส่งเพื่อลดการปล่อยก๊าซ: ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า, เช่นการใช้รถไฟหรือการใช้พลังงานที่มีผลกระทบต่ำ.
- การส่งเสริมการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักคาร์บอนต่ำ: สนับสนุนการใช้วัสดุที่มีคาร์บอนน้อยกว่าในการผลิตสินค้า, การรับรู้และส่งเสริมการทำให้วัสดุรู้นิยมที่มีคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม.
- การคุ้มครองป่าและการปลูกต้นไม้: สนับสนุนโครงการปลูกต้นไม้และคุ้มครองป่าเพื่อดูแลวิถีชีวิตของพื้นที่และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์.
- การส่งเสริมการลดสูญเสียพลังงาน: ส่งเสริมการลดการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากกระบวนการหรือการใช้งานที่ไม่มีประโยชน์.
การลดคาร์บอนฟุตปรินท์ทำให้องค์กรมีส่วนร่วมในการลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและช่วยในการดำเนินงานที่ยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม.
นอกจากองค์กรใหญ่ๆ แล้วเราทุกคนมีส่วนช่วยลดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ได้หรือไม่ ?
จากการเก็บสถิติประชากรบนโลกนี้จากการอุปโภค บริโภค สินค้าและบริการต่างๆใน 1 ปี จะมีค่าเฉลี่ยการปล่อยคาร์บอนทุกกิจกรรมอยู่ที่ 4 ตัน/ปี ซึ่งจะทำให้อุณภูมิโลกสูงขึ้นถึง 2 องศา สิ่งที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือเพียง 2 ตัน/คน/ปี ซึ่งสามารถทำได้โดยการหันมาบริโภคสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตจากโรงงานที่มีนโยบายและมีความมุ่งมั่นในการการลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นการช่วยโลกและสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่อาศัยอยู๋ในโลกใบนี้