หลายท่านที่ติดโควิด และหลังจากพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว คงจะมีคำถามว่าแล้วเราจะต้องทำความสะอาดบ้านอย่างไร เนื่องจากไวรัสโคโรนา หรือเชื้อโควิด-19 สามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงถึงหลายวัน ซึ่งการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ตามพื้นผิวต่างๆ จึงควรใช้สารที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อได้ในระยะเวลาสั้น โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า การทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อในสิ่งแวดล้อม มี 2 ขั้นตอนสำคัญคือ การทำความสะอาด (Cleaning) และการฆ่าเชื้อโรค(Disinfection)
โดยมีคำแนะนำถึงสาร 3 ชนิดที่ทำลายเชื้อไวรัสได้ภายในระยะเวลา 1 นาที ได้แก่ สารประกอบ
- โซเดียมไฮโปคลอไรด์ 0.1% (เช่น น้ำยาฟอกขาวความเข้มข้น 1,000 ppm)
- แอลกอฮอล์ 62%-70%
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 0.5%
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ มักจะประกอบด้วยสบู่หรือสารลดแรงตึงผิว ที่ช่วยลดจำนวนเชื้อโรคบนพื้นผิว และยังช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อบนพื้นผิว การทำความสะอาดเพียงอย่างเดียวก็สามารถช่วยขจัดไวรัสบนพื้นผิวได้แล้ว แต่กรณีที่มีผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อจึงจำเป็นต้องทำการฆ่าเชื้อโรคด้วย โดยเริ่มจาก
- ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาด
เช่น น้ำสบู่ผงซักฟอก หรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป
- ผลิตภัณฑ์สำหรับฆ่าเชื้อโรค
– กรณีทำความสะอาดสิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องใช้แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ผสมน้ำให้มีความเข้มข้น 0.5% ในการเช็ดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
– กรณีเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น พื้นห้อง แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ หรือน้ำยาซักผ้าขาว โดยผสมให้มีความเข้มข้น 0.1%
โดยจะต้องเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคให้ได้ความเข้มข้นดังกล่าว ตัวอย่างเช่นการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโซเดียมไฮโปคลอไรด์ความเข้มข้น 6% ขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร โดยผสมให้ได้ความเข้มข้น 0.1% นั้น ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ไป 2 ฝา หรือ20 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 1 ลิตร
โดยหลังจากทำความสะอาดพื้นผิวทั่วไปแล้ว ให้ใช้น้ำยาที่ผสมทำการฆ่าเชื้อโรคอีกครั้ง โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดตาม บริเวณที่มีการสัมผัสหรือใช้งานร่วมกันบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ รีโมทคอนโทรล ราวบันได เป็นต้น รวมทั้งห้องน้ำ และหากเป็นสิ่งของหรือของใช้ขนาดเล็กแนะนำให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ได้ โดยขณะทำความสะอาดให้เปิดประตู หน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และให้แดดส่องทั่วถึงภายในบ้านหรือคอนโด ที่อยู่อาศัยด้วย
นอกจากสถานที่และของใช้ต่างๆแล้วยังแนะนำให้ทำความสะอาด เสื้อผ้า โดยนำเสื้อผ้าที่ใช้ระหว่างกักตัวแยกไว้ซัก โดยซักด้วยน้ำยาซักผ้าปกติก็สามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว โดยหลีกเลี่ยงการสะบัดผ้าก่อนการซักเพื่อลดโอกาสฟุ้งกระจายของเชื้อโรค รวมถึงอย่าลืมพ่นฆ่าเชื้อโรคและทำความสะอาดตะกร้าผ้าด้วย
เตียงนอนและเครื่องนอกให้ถอดผ้าปูและผ้าหุ้มออกมาทำความสะอาดหรือซักตามปกติ โดยหลีกเลี่ยงการสะบัดผ้าก่อนที่จะซัก ส่วนที่นอนและหมอนให้นำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือถ้าหมอนใบเล็กสามารถนำไปซักในเครื่องซักผ้าได้จะดียิ่งขึ้น
โดยอย่าลืมก่อนทำความสะอาดจะต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ที่จำเป็น เช่นหน้ากาก ถุงมือยาง และแว่นตา ส่วนเศษขยะที่เกิดจากการเก็บทำความสะอาดให้ห่อให้มิดชิด เนื่องจากเป็นขยะที่อาจจะมีการติดเชื้อ เป็นขยะอันตราย หลังจากทำความสะอาดทุกอย่างแล้วอย่าลืมล้างมือและชำระร่างกายโดยทันที ผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดให้ล้างและฆ่าเชื้อโรคและผึ่งแดดให้แห้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่
ข้อควรระวัง
- สารที่ใช้ฆ่าเชื้อส่วนใหญ่เป็นสารฟอกขาว ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง และเนื้อเยื่ออ่อน ควรระวังไม่ให้เข้าตาหรือสัมผัสโดยตรง
- ห้ามผสมน้ำยาฟอกขาวกับสารทำความสะอาด หรือสารฆ่าเชื้ออื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในลักษณะสเปรย์ฉีดพ่น เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- เพื่อให้น้ำยาสำหรับฆ่าเชื้อมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ควรผสมไว้นาน หลังผสมแล้ว ควรใช้งานทันที
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูก และปาก ขณะสวมถุงมือและระหว่างการทำความสะอาด