ไฟป่า คืออะไร?
ไฟป่า หมายถึง ไฟที่เกิดจากสาเหตุใดก็ตามแล้วลุกลามไหม้ในป่าได้โดยอิสระโดยไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าไฟจะลุกลามไหม้ในป่าธรรมชาติ หรือพื้นที่สาธารณะไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนและความแห้งของอากาศ ที่ทำให้พื้นที่หรือป่าแห้งและเกิดเป็นเปลวไฟ ซึ่งมักจะเกิดในช่วงฤดูแล้งที่มีอากาศร้อนจัด ซึ่งหากไฟป่ามีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มากนัก จะสามารถดับได้โดยทีมผู้สืบสวนและทีมผู้ดับเพลิง โดยอาศัยการใช้น้ำและอุปกรณ์ดับเพลิงต่างๆ เช่น หัวฉีดน้ำ เครื่องดับเพลิง หรือถังน้ำแรงดันสูง
สาเหตุของไฟป่า
การเกิดไฟป่ามีได้หลากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
- ไฟป่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดจากฟ้าผ่า อากาศร้อนขึ้น แสงตกกระทบกับผลึกหิน กิ่งไม้เสียดสีกัน ภูเขาไฟระเบิด
- ไฟป่าที่มีสาเหตุมาจากมนุษย์ การหาของป่า การจุดกระตุ้นการงอกของเห็ด หรือพืชบางชนิดโดย รวมถึงการจุดเพื่อให้ป่าโล่งเพื่อลักลอบทำปศุสัตว์
อันตรายจากไฟป่า
ไฟป่าก่อเกิดความเสียหายอย่างมาก หากเกิดการไหม้ในวงกว้างทำให้สูญเสียพื้นที่ป่า ทำให้แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าถูกทำลาย ทำลายแหล่งอาหารของสัตว์ป่า สัตว์บางชนิดที่เคลื่อนที่ช้าจะถูกรมควันโดนไฟคลอกตายหรือสัตว์ป่าบางชนิดอาจเกิดการสูญพันธุ์
ไฟป่ามีอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การเกิดไฟป่าจะทำให้เกิดเขม่าเป็นจำนวนมากทั้งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าและฝุ่นที่มองไม่เห็นมีขนาดเล็กขนาดเท่า PM10 หรือ PM2.5 ฝุ่นจากการเผาไหม้นี้สามารถลอยตามลมไปได้ไกลเป็นร้อยกิโลเมตรและสามารถลอยอยู่บนชั้นบรรยากาศได้นานนับเดือนหากไม่มีฝนตกลงมา
และเขม่าจากการเผาไหม้พวกนี้สามารถเป็นสารก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อร่างกายและผิวหนังของมนุษย์ หากสูดดมเข้าไปมากๆ จะสะสมในร่างกายก่อให้เกิดอาการแพ้หรือก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคหอบหืด โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคมะเร็ง สำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายได้อาการสังเกตอาการได้อย่างชัดเจนหรือสะสมในร่างกายและส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวเป็นสิบปี
ไฟป่าเป็นต้นเหตุของ pm2.5 มั้ย ?
ฝุ่น PM2.5 เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งไฟป่าอาจไม่ใช่ต้นเหตุของการเกิดฝุ่น PM2.5 ทั้งหมดโดยตรงแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นชนิดนี้ และยังส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
เมื่อไฟป่าเกิดขึ้น จะมีการไหม้วัชพืช ต้นไม้และอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดควันและฝุ่นละอองในอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศและอากาศขาดความชื้นและมีลมแรง จะทำให้ไฟป่าขยายพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและส่งผลต่อคุณภาพของอากาศในพื้นที่โดยรอบ และจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ที่ต้องการหายใจ เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง และผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินหายใจ ดังนั้น ไฟป่าส่งผลต่อค่า PM2.5 และสามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ได้อย่างมาก
การฟุ้งกระจายของ pm2.5 ไปไกลแค่ไหน
ตามงานวิจัย พบว่า PM2.5 ที่เกิดจากไฟป่าสามารถกระจายได้ไกลถึงกว่า 100 กิโลเมตร โดยพบว่า PM2.5 มีความเข้มสูงสุดในบริเวณที่อยู่ใกล้กับจุดไฟไหม้ แต่สามารถพบได้ในระยะไกลจากจุดไฟไหม้ อย่างไรก็ตาม รัศมีการฟุ้งกระจายของ PM2.5 อาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขอากาศและสภาพแวดล้อมของแต่ละสถานที่ เช่น ลม การพัดพาของสภาพอากาศ สภาพอากาศและระยะจากแหล่งกำเนิด
เราจะเฝ้าระวังได้อย่างไรบ้าง
เบื้องต้นเราควรติดตามข่าวสารจากสื่อทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อตามโซเชียลต่างๆ ทั้งสภาพอากาศฤดูกาลที่เปลี่ยนไปหรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงหน้าร้อน หรือสามารถติดตามสภาพอากาศได้จากเว็บไซต์สำนักงานป่าไม้แห่งชาติไทยซึ่งเราได้นำเว็บไซต์ที่สามารถตรวจสอบสภาพอากาศมาไว้ให้แล้วตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
สำนักงานป่าไม้แห่งชาติ: เป็นเว็บไซต์ของสำนักงานป่าไม้แห่งชาติ ซึ่งมีฟังก์ชันการเฝ้าระวังสภาพอากาศทั่วประเทศ รวมถึงเรื่องของไฟป่าและคุณภาพอากาศ โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.dnp.go.th/
Air4thai เป็นเว็บไซต์ตรวจเช็คคุณภาพอากาศ และสามารถเลือกได้โดยเปลี่ยน Indicator เป็น CO ( คาร์บอนมอนน็อกไซ ) คาร์บอนมอนน็อกไซคือก๊าซพิษที่ออกมาจากการเผาไหม้ http://air4thai.pcd.go.th/
สรุป
ไฟป่านอกจากจะทำให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าแล้วหากมีการลุกลามายังเขตที่อยู่อาศัยอาจเกิดการเสียหายมากขึ้นตามไปอีก ทั้งสุขภาพชีวิตและทรัพย์สิน ส่งผลต่อเศรษฐกิจ หรือหากไฟป่าได้มอดไปแล้วแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ยังคงอยู่โดยเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย