สรุป (Executive summary)
- “Cost down” ที่แท้จริงในองค์กรชั้นนำระดับโลก เน้นกำจัดความสูญเปล่าของกระบวนการ ไม่ใช่ “ลดสเปก PPE” เพราะการลดคุณภาพ/มาตรฐานของอุปกรณ์เซฟตี้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ-ค่าชดเชย-ชื่อเสียง และอาจ ผิดกฎหมาย โดยตรง (เช่น OSHA 1910.132 ในสหรัฐฯ กำหนดให้นายจ้างต้องจัดหา PPE ที่ “ปลอดภัยตามงาน” และโดยหลักต้องจัดหา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายกับพนักงาน) สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- มาตรฐานสากลเช่น ISO 45001 ข้อ 8.1.4 (Procurement) บังคับให้การจัดซื้อจัดจ้าง ต้องไม่ทำลายสมรรถนะด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ของระบบงานทั้งหมด PRETESH BISWASISO 9001 Checklist
- ญี่ปุ่น บัญญัติหน้าที่ของนายจ้างให้ “ดำเนินมาตรการที่จำเป็น” ป้องกันอันตราย/อันตรายต่อสุขภาพของลูกจ้างภายใต้ Industrial Safety and Health Act และกฎหมายลูกรองรับมาตรการ PPE อย่างเป็นระบบ japaneselawtranslation.go.jp+1
- ยุโรป กำกับ คุณภาพตัวผลิตภัณฑ์ PPE ด้วย Regulation (EU) 2016/425 (CE marking) ซึ่งหมายความว่า ลดสเปกจนไม่ผ่าน CE = วางจำหน่ายไม่ได้ และเสี่ยงผิดกฎหมาย/การฟ้องร้อง osha.europa.eu+1
- ด้านเศรษฐศาสตร์ความปลอดภัย: ปี 2023 ต้นทุนความสูญเสียจากการบาดเจ็บจากการทำงานในสหรัฐฯ รวมประมาณ 176.5 พันล้านดอลลาร์; นายจ้างสามารถคำนวณยอดขายที่ต้องเพิ่มเพื่อคุมความเสียหายผ่านเครื่องมือ OSHA Safety Pays ได้โดยตรง (ยอดขายชดเชยมักสูงกว่าที่คาดมาก) Injury Factsสำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย+1
ภาพรวมสากล: ทำไมองค์กรชั้นนำ “ไม่” ลดสเปก PPE
- กรอบกฎหมายที่เข้มแข็ง
- สหรัฐฯ (OSHA 29 CFR 1910.132): นายจ้างต้องประเมินอันตราย เลือก PPE ที่ “ออกแบบและสร้างให้ปลอดภัยตามงาน”, ฝึกอบรม, ดูแลให้เหมาะสม และโดยหลักต้อง จัดหา PPE ให้ฟรี (ยกเว้นบางกรณี เช่น รองเท้าเซฟตี้พื้นฐาน) สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- ญี่ปุ่น: Industrial Safety and Health Act กำหนดให้นายจ้างต้องดำเนินมาตรการป้องกันอันตรายและผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมมี Ordinance ควบคุมรายละเอียดการบริหารความปลอดภัยในสถานประกอบการ japaneselawtranslation.go.jp+1
- ยุโรป: Regulation (EU) 2016/425 ควบคุม “ตัวสินค้า PPE” ให้ผ่าน CE marking ตามข้อกำหนดคุณภาพ/ความปลอดภัย หากลดสเปกจนไม่ผ่าน = ผิดกฎหมาย osha.europa.eu+1
- หลัก ISO 45001 (8.1.4 Procurement)
การจัดซื้อสินค้าหรือบริการ ต้องควบคุมให้คงสมรรถนะด้านความปลอดภัย ของระบบงาน ไม่ใช่จุดที่ “บีบให้ลดคุณภาพ” เพราะจะทำลายเสถียรภาพของทั้งระบบและผิดข้อกำหนดมาตรฐานโดยตรง PRETESH BISWASISO 9001 Checklist - เศรษฐศาสตร์ความปลอดภัย (Safety Economics)
- ผลกระทบจริงมีขนาดใหญ่: NSC รายงาน ต้นทุนความสูญเสียจากการบาดเจ็บจากการทำงานในสหรัฐฯ ปี 2023 = 176.5 พันล้านดอลลาร์ (ค่าจ้างที่สูญเสีย ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายบริหาร ฯลฯ) Injury Facts
- วางแผนเชิงตัวเลขได้: เครื่องมือ OSHA Safety Pays คำนวณ “ยอดขายที่ต้องเพิ่ม” เพื่อชดเชยค่าบาดเจ็บจากงานจริง ๆ ทำให้เห็นว่า “ประหยัดไม่กี่บาท” จาก PPE ต่ำสเปก อาจแลกด้วย ยอดขายมหาศาล ที่ต้องทำเพิ่มเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย+1
- งานทบทวนและคู่มือหลายสำนักยืนยัน ROI บวก ของการลงทุนด้านความปลอดภัย (เช่น งานของ EU-OSHA และการทบทวนเชิงระบบล่าสุด) แม้ตัวเลขจุดเฉพาะต่างกันตามบริบทอุตสาหกรรม/วิธีวัด แต่ทิศทางคือ “ลงทุนความปลอดภัยแล้วคุ้ม” Publications Office of the EUOxford AcademicBritish Safety Council
บทเรียนจาก “Hierarchy of Controls”: ลดต้นทุนให้ถูกจุด
PPE เป็นด่านสุดท้าย ในลำดับชั้นการควบคุมอันตราย (Elimination → Substitution → Engineering → Administrative → PPE) ดังนั้นการ “ลดสเปก PPE” คือการตีบช่องป้องกันสุดท้ายของคนทำงาน โดยตรง ทางที่ถูกต้องคือ ลดต้นทุนผ่านระดับบน ของพีระมิดก่อน (เช่น วิศวกรรม/กระบวนการ) ไม่ใช่ตัดคุณภาพ PPE ลง CDCสำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
กฎหมายและมาตรฐาน “ห้ามข้าม”
- ไทย: พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย ฯ พ.ศ. 2554 และ ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องกำหนดมาตรฐาน PPE พ.ศ. 2554 กำหนดให้นายจ้าง จัดหาและกำกับการใช้ PPE ที่ได้มาตรฐาน ตามที่อธิบดีประกาศไว้ (เช่น มอก./EN/ANSI/ฯลฯ) TOSHBSA ThailandShecu
- สหรัฐฯ: OSHA 1910.132 กำหนดเงื่อนไขการเลือก/ฝึกอบรม/บำรุงรักษา และ การออกค่าใช้จ่าย PPE ของนายจ้าง ตาม (h) สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- สหภาพยุโรป: PPE Regulation (EU) 2016/425 บังคับ CE marking และเอกสารความสอดคล้อง—ลดสเปกจนไม่ผ่าน = ผิดกฎหมาย/เรียกคืนสินค้าได้ osha.europa.eu+1
- ญี่ปุ่น: กฎหมายหลักและข้อบังคับลูก (Ordinance) ระบุหน้าที่นายจ้างด้านป้องกันอันตรายและสุขภาพอย่างชัดเจน japaneselawtranslation.go.jp+1
“Cost Down” แบบที่ยอมรับได้ (และใช้กันจริงในบริษัทชั้นนำ)
- Life-Cycle Costing (LCC): เลือก PPE ที่ทนทาน/เหมาะกับงานมากขึ้น อายุใช้งานยาวกว่า → ลดอัตราเปลี่ยน/ลดของเสีย ทั้งที่ราคาต่อชิ้นอาจสูงกว่า แต่ ต้นทุนต่อรอบงานต่ำลง
- ตัวอย่างคำนวณง่าย: ถุงมือ A ราคา 45 บาท ใช้ได้ 1 วัน = 225 บาท/สัปดาห์ (5 วัน) เทียบกับถุงมือ B ราคา 120 บาท ใช้ได้ 5 วัน = 120 บาท/สัปดาห์ → ประหยัด 105 บาท/คน/สัปดาห์ + ลดเวลาหยุดงานจากการขาดคุณสมบัติ
- มาตรฐานเดียวกันทั้งโรงงาน (SKU Standardization): รวมรุ่น/ยี่ห้อให้เหลือ “ชุดมาตรฐาน” ที่ผ่าน มอก./EN/ANSI/CE/UKCA เพื่อต่อรองราคาปริมาณและลดความสับสนในการจ่าย PPE (ลด mis-use)
- Data-Driven Consumption: เก็บข้อมูลการเบิกใช้/เหตุขาดการป้องกัน/สาเหตุเสียหาย → ปรับรุ่น/วัสดุ/ขนาดให้ตรงงาน ลดของเสียจากการใส่ไม่พอดี และ เพิ่มอัตราการยอมรับการใส่
- ปรับกระบวนการ (Engineering/Administrative): ตัดแหล่งอันตรายด้วยวิศวกรรม (การครอบคลุม การดูดระบาย ฯลฯ) และตารางงาน/อบรมที่ดีขึ้น ทำให้ ระดับความเสี่ยงพื้นฐานลดลง จนไม่ต้องพึ่ง PPE ระดับสูงในบางจุด (ต้นทุนรวมต่ำกว่า) — สอดคล้อง Hierarchy of Controls CDC
- คัดเลือกซัพพลายเออร์ตามข้อกำหนด ISO 45001 8.1.4: ขอ Declaration of Conformity, รายงานทดสอบ, ใบรับรองจากหน่วยรับรอง (Notified Body/Accredited Lab) และระบบ traceability ชัดเจน—เป็น Cost Down ทาง ความเสี่ยงซัพพลายเชน ไม่ใช่ลดคุณภาพสินค้า PRETESH BISWAS
Cost Down แบบที่ “ห้ามทำ” (Red lines)
- ลดระดับมาตรฐาน/หมวดความเสี่ยงของ PPE (เช่น ลดระดับการกันบาดกันกระแทกให้ต่ำงาน) → เสี่ยงผิดกฎหมาย/เพิ่มโอกาสบาดเจ็บโดยตรง สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- ใช้ของไม่มี CE/มอก./ANSI ในตลาดที่กำหนดมาตรฐาน → เสี่ยงทางกฎหมาย/การเพิกถอน/เรียกคืน osha.europa.eu
- โยนภาระค่าใช้จ่าย PPE ให้พนักงาน (ในเขตอำนาจที่บังคับให้นายจ้างต้องจัดหา) → ขัดกฎหมายทันที (เช่น OSHA 1910.132(h)) สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
เช็กลิสต์สำหรับ จป.วิชาชีพ เมื่อพบข้อเสนอ “ขอลดสเปกเพื่อลดต้นทุน”
- ยืนยันระดับความเสี่ยงและข้อกำหนดขั้นต่ำทางกฎหมาย/มาตรฐาน (มอก./EN/ANSI/CE/UKCA)
- ทวน ISO 45001 ข้อ 8.1.4: การจัดซื้อครั้งนี้กระทบสมรรถนะด้านความปลอดภัยของระบบหรือไม่? PRETESH BISWAS
- ตรวจเอกสารความสอดคล้อง: DoC, รายงานทดสอบ, ใบรับรองหน่วยรับรอง
- ทดสอบภาคสนาม (Fit & Wear Trial): ความพอดี ความสบาย ความเข้ากันได้ข้ามอุปกรณ์ (กึ่งหน้ากาก+แว่น+หมวก) เพราะ “ใส่ไม่สบาย = ไม่ใส่ = ความเสี่ยงเพิ่ม”
- คำนวณ LCC & Safety Pays: คิดต้นทุนตลอดอายุใช้งาน + ประเมิน “ยอดขายที่ต้องเพิ่ม” หากเกิดอุบัติเหตุ (ใช้ OSHA Safety Pays) เพื่อสื่อสารกับฝ่ายการเงิน/ผู้บริหาร สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- พิจารณาทางเลือกที่ระดับสูงกว่า ใน Hierarchy of Controls ก่อนตัดสเปก PPE CDC
คำตอบสุดท้าย: “คุ้มไหมถ้าจะ Cost Down อุปกรณ์เซฟตี้?”
ถ้า “Cost Down = ลดสเปก/ลดมาตรฐาน” คำตอบคือ ไม่คุ้ม ทั้งในมุม กฎหมาย ความเสี่ยง และเศรษฐศาสตร์ความปลอดภัย (ตัวเลขต้นทุนบาดเจ็บระดับแสนล้านดอลลาร์/ปีชี้ชัดมาก) Injury Facts
แต่ถ้า “Cost Down = ลดความสูญเปล่าของกระบวนการ จัดซื้อแบบมีมาตรฐาน ใช้ LCC/ข้อมูลการใช้งานจริง ปรับวิศวกรรม และยึด ISO 45001” นั่นคือ คุ้มและยั่งยืน โดยไม่ทำลาย “ด่านสุดท้าย” ของคนทำงาน
ภาคผนวก: กฎหมาย/แหล่งอ้างอิงหลักที่ควรรู้
- OSHA 29 CFR 1910.132 (US): หน้าที่นายจ้างต่อ PPE และการออกค่าใช้จ่าย (h) สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- OSHA Safety Pays: เครื่องมือคำนวณต้นทุนบาดเจ็บและยอดขายที่ต้องชดเชย สำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย+1
- ISO 45001 ข้อ 8.1.4 Procurement: จัดซื้อที่ไม่ทำลายสมรรถนะด้านความปลอดภัยของระบบงาน PRETESH BISWAS
- NIOSH/OSHA Hierarchy of Controls: PPE คือด่านสุดท้าย—อย่าลดสเปกเป็นลำดับแรก CDCสำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
- EU Regulation (EU) 2016/425 (CE marking): ข้อกำหนดคุณภาพตัวผลิตภัณฑ์ PPE ในสหภาพยุโรป osha.europa.eu+1
- ญี่ปุ่น – Industrial Safety and Health Act & Ordinance: หน้าที่นายจ้างในการป้องกันอันตราย/ผลกระทบต่อสุขภาพ japaneselawtranslation.go.jp+1
ไทย – พ.ร.บ. ความปลอดภัยฯ พ.ศ.2554 และประกาศมาตรฐาน PPE พ.ศ.2554: นายจ้างต้องจัดหา PPE ที่ได้มาตรฐานที่รัฐกำหนด