อย่าสับสนจนเสียหาย เครื่องดื่ม เกลือแร่ ท้องเสีย VS เกลือแร่ ออกกำลังกายไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

แชร์บทความนี้

เมื่อท้องเสียก็ต้องจิบเกลือแร่เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำในร่างกาย แต่ก็ยังมีหลายคนที่เมื่อมีอาการท้องเสียและต้องการบรรเทาอาการด้วยการดื่มเกลือแร่ เลือกจะเดินไปร้านสะดวกซื้อและหยิบเกลือแร่รูปแบบขวดออกมาจากตู้แช่ หารู้ไม่ว่า คำว่าเกลือแร่เหมือนกัน แต่วัตถุประสงค์ของการดื่มนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้หลังดื่มเกลือแร่แบบขวด นอกจากจะไม่ช่วยบรรเทาอาการท้องเสียแล้ว อาการอาจจะแย่ลงกว่าเดิมก็ได้

แก้ไขความเข้าใจผิดให้กระจ่าง เกลือแร่ 2 ประเภทนี้ต่างกันอย่างไร

จริง ๆ แล้วลักษณะภายนอกของเกลือแร่เพื่อบรรเทาอาการท้องเสีย และเกลือแร่เพื่อทดแทนการเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายนั้น แยกออกได้ง่าย ๆ หากเป็นสำหรับการออกกำลังกาย มักพบจำหน่ายรวมอยู่กับเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ มีลักษณะเป็นขวด มีสีสันและรสชาติให้เลือกมากมาย ส่วนเกลือแร่สำหรับท้องเสียจะมาในลักษณะผงอยู่ในซอง ผู้ป่วยต้องชงกับน้ำสะอาดเพื่อดื่มเอง

ทางที่ดีอีกทางคือ เราควรเข้าใจชื่อเรียกที่แท้จริงของเกลือแร่สำหรับบรรเทาอาการท้องเสีย หรือเกลือแร่ที่มาในรูปแบบซอง ต่อไปนี้หากท้องเสีย ต้องมองหา “เกลือแร่โออาร์เอส” (Oral Rehydration Salt : ORS) เสมอ เป็นการเติมน้ำให้ร่างกายเนื่องจากท้องเสียหรืออาเจียน เกลือแร่ประเภทนี้มีส่วนประกอบหลักคือ “โซเดียม” นอกจากนี้ก็มีแร่ธาตุอื่น ๆ ที่จำเป็นอย่างโพแทสเซียมและกลูโคส ซึ่งบรรจุมาในอัตราส่วนที่เหมาะสมแล้ว

สำหรับเกลือแร่ในขวดที่ใช้สำหรับการสูญเสียน้ำเนื่องจากการออกกำลังกาย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เกลือแร่โออาร์ที” (Oral Rehydration Therapy : ORT) ไม่นับเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ จัดเป็นเครื่องดื่มทั่วไปที่มักจะมีน้ำตาลอยู่เยอะ เพราะเหตุนี้การดื่มเกลือแร่ประเภทนี้เพื่อหวังบรรเทาอาการท้องเสีย จึงมักไม่ได้ผล ซ้ำร้าย ร่างกายยังจะต้องจัดการกับน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามา อาจส่งผลให้อาการท้องเสียยิ่งเลวร้ายลงได้

ดื่มเกลือแร่โออาร์เอสอย่างไรให้ได้ผลดีเมื่อมีอาการท้องเสีย

นอกจากจะต้องแยกเกลือแร่ทั้ง 2 ประเภทนี้ให้ออกแล้ว ยังมีข้อควรจดจำเกี่ยวการใช้เกลือแร่โออาร์เอส ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์การบรรเทาอาการสูญเสียน้ำในร่างกายให้ได้ดีที่สุด

  • ควรใช้เมื่อมีอาการสูญเสียน้ำจากอาการท้องเสีย ท้องร่วง หรืออาเจียนร่วมด้วย เท่านั้น
  • เกลือแร่โออาร์เอสต่างยี่ห้อกัน ก็มักมาในซองที่มีขนาดบรรจุไม่เท่ากัน ดังนั้นการผสมน้ำ ให้ยึดอัตราส่วนที่กำกับไว้บนซองเกลือแร่อย่างเคร่งครัด
  • น้ำที่ใช้ผสมเกลือแร่ต้องเป็นน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุกที่เย็นแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนอื่น ๆ ที่อาจทำให้อาการท้องเสียแย่ลง
  • การนำเกลือแร่เข้าสู่ร่างกาย ให้ “จิบ” ช้า ๆ โดยให้จิบแทนน้ำเปล่าเมื่อมีอาการ ไม่ควรดื่มรวดเดียว
  • เกลือแร่ที่เปิดซองและละลายน้ำแล้วควรจิบให้หมดภายใน 24 ชั่วโมง
  • หากอาการท้องเสียยังไม่ทุเลา และรุนแรงขึ้น ให้หยุดจิบ แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานในผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ และโรคไต

อย่าลืมว่า การดื่มอะไรก็ตามเพื่อให้เป็นยารักษา จะต้องดูให้ดี และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุเอาไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด การดื่มเกลือแร่ก็เช่นกัน หากใช้ถูกประเภท ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม หรือหลีกเลี่ยงการใช้งานเมื่อรู้ตัวว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง อาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่ก็มีแนวโน้มที่จะได้ทุเลาลง และหายไปได้

ทำความสะอาดบ้านอย่างไร หลังจากพ้นระยะกักตัวจากการติดโควิด-19 แล้ว

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้หลายท่านที่ติดโควิด และหลังจากพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว คงจะมีคำถามว่าแล

อ่านเพิ่มเติม »

ทำความรู้จักกับ ชุดตรวจโควิด 19 ชนิดเก็บตัวอย่างผ่านน้ำลาย ใช้อย่างไร?

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้ในช่วงที่โควิด-19 กลับมาระบาดหนักในไทยอีกระลอก คนไทยเริ่มหันมาให้คว

อ่านเพิ่มเติม »

เบาหวาน สังเกตุอาการ พฤติกรรมเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงและอาหารสำหรับคนเป็นเบาหวาน

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้โรคเบาหวานคืออะไร โรคเบาหวานคือภาวะที่มีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูง

อ่านเพิ่มเติม »

ห่วง D-Ring บนชุดเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว(Full body Harness)กับการใช้งาน

แชร์บทความนี้

ห่วง D-Ring ที่ติดตั้งอยู่บนชุดเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวในรุ่นมาตรฐานนั้นผู้ผลิตจะติดตั้งมาให้1จุดบริวณด้านหลังของชุดโดยผ่านการทดสอบความ

อ่านเพิ่มเติม »