อัพเดตจาก WHO Bivalent Vaccine วัคซีนรุ่นใหม่ที่จะทำให้คุณรอดจาก Omicron

แชร์บทความนี้

Bivalent Vaccine วัคซีนรุ่นใหม่ที่จะทำให้คุณรอดจาก Omicron

 

อัพเดตจาก องค์การอนามัยโลก จากรายงานล่าสุดจาก WHO Weekly Epidemiological Update ในรอบเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา Omicron ครองการระบาดทั่วโลกถึง 99.6% โดยพบว่าเป็น Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้นมีสัดส่วนสูงขึ้นจากเดิม 72.4% เป็น 78.2%

 

ในขณะที่ BA.2 นั้นมีสัดส่วนเพียง 2.7% ส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 (ที่พบครั้งแรก ในอินเดีย) ยังมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวัง และติดตามอย่างใกล้ชิด

 

และจากการสัมภาษณ์ Dr.Kerkhove MV, WHO ที่ผ่านมา ได้เตือนว่าปัจจุบันในหลายประเทศ ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบรายงานเคส และระบบการตรวจ ทำให้เชื่อว่าตัวเลขรายงานการติดเชื้อที่รายงานเข้ามานั้นต่ำกว่าที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจากประมาณการณ์แล้ว ดูจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรประมาท

ตอนนี้ทั่วโลกมีวัคซีน 11 ตัวที่ผ่านการรับรองจาก WHO แล้ว ซึ่งทุกชนิดผลิตจากสารพันธุกรรมของไวรัสตัวเดิมคืออู่ฮั่นทั้งสิ้น

 

ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่ง ที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนเข็มแรก การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสเกิดขึ้นอย่างมากมาย และรวดเร็ว โดยมีการระบาด ของสายพันธุ์ที่น่ากังวลเกิดขึ้นหลายระลอก จากการเก็บข้อมูลทั่วโลกพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน ที่มีพื้นฐานจากสารพันธุกรรมดั้งเดิม หรือวัคซีนเดิมที่ผ่านการรับรองจาก WHO นั้นยังคงมีประสิทธิผล ที่ช่วยในการลดอัตราการป่วยที่รุนแรง อัตราการเสียชีวิต ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อที่กลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ Omicron ที่ผ่านมาทำให้จำเป็นต้องมีการพัฒนาวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และลดจำนวนคนติดเชื้อและเสียชีวิตลงอีก

วัคซีนโควิด รุ่นใหม่ Bivalent คืออะไร

วัคซีน Bivalent นั้นเป็นวัคซีนที่มีการพัฒนาขึ้น และมีความครอบคลุมทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งเกิดจากการพัฒนาวัคซีนโดยใช้สารพันธุ์ดั้งเดิม และ Omicron BA.1 โดยประสิทธิภาพของวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันครอบคลุมต่อสายพันธุ์ย่อยที่มีการระบาดสูงได้แก่สายพันธุ์ Omicron BA.4/BA.5 โดยปัจจุบันมีวัคซีน Bivalent นี้ได้ผ่านการรับรองจาก US FDA แล้ว ได้แก่วัคซีนของ Pfizer-Biontech ซึ่งใช้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และวัคซีนของ Moderna ซึ่งใช้สำหรับผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป การฉีดเข็มกระตุ้น ด้วย Bivalent vaccine นั้น สามารถให้ได้ตั้งแต่ 2 เดือนหลังจากฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย ซึ่งไม่ว่าเข็มล่าสุดนั้นเป็นเข็มสอง หรือเป็นเข็มกระตุ้นก็ตาม

 

โดยวัคซีนนี้ในประเทศ สหรัฐอเมริกา เริ่มมีการฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ไปแล้ว สำหรับประเทศไทยคงต้องติดตามต่อไปว่าสามารถนำวัคซีนเข้ามาบริการได้เร็วที่สุดเมื่อไร เพราะการระบาดยังคงสูง แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่างๆไปแล้ว ทำให้การติดเชื้อไม่รุนแรง โดยมีอัตราการเสียชีวิตน้อยลง แต่สิ่งที่ควรตระหนักคือ ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการระยะยาว อย่าง Long COVID ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต และการทำงาน สามารถทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้ และทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อตัวผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศ

 

เพราะฉะนั้นการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะสามารถลดความเสี่ยงไปได้มาก

 

อ้างอิง

  1. WHO Weekly Epidemiological Update. WHO. 31 August 2022.
  2. Coronavirus (COVID-19) Update: FDA Authorizes Moderna, Pfizer-BioNTech Bivalent COVID-19 Vaccines for Use as a Booster Dose. FDA News Release. 31 August 2022.
  3. https://extranet.who.int/pqweb/vaccines/vaccinescovid-19-vaccine-eul-issued
  4. https://ourworldindata.org/search?q=covid-19+variants

5. เว็บไซต์ siamrath.co.th

การเลือก “หนัง” รองเท้าเซฟตี้

แชร์บทความนี้

รองเท้านิรภัย หรือรองเท้าเซฟตี้ ตามมาตรฐานทั้ง มอก. และ EN20345 ได้ กำหนดคุณสมบัติของหนัง รองเท้านิรภัย ให้สามารถทำได้จาก หนังแท้

อ่านต่อ »

ห่วง D-Ring บนชุดเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว(Full body Harness)กับการใช้งาน

แชร์บทความนี้

ห่วง D-Ring ที่ติดตั้งอยู่บนชุดเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัวในรุ่นมาตรฐานนั้นผู้ผลิตจะติดตั้งมาให้1จุดบริวณด้านหลังของชุดโดยผ่านการทดสอบความ

อ่านต่อ »

ทำความรู้จักกับสารต้านอนุมูลอิสระ ตัวช่วยสำคัญในการดูแลสุขภาพให้ยืนยาว

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้ในยุคที่ผู้คนหันมารักสุขภาพ ออกกำลังกาย และเลือกบริโภคอาหารที่มีประ

อ่านเพิ่มเติม »

ทำไมผู้ป่วยต้องทำ MRI? รู้จักความจำเป็น และจุดเด่นของการตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้ทำไมผู้ป่วยต้องทำ MRI? รู้จักความจำเป็น และจุดเด่นของการตรวจวินิจฉั

อ่านเพิ่มเติม »