TL;DR
GPT-5 เป็นระบบแบบ “Unified” ที่เลือกใช้โมเดล/โหมดคิดอัตโนมัติตามงาน ชนะรุ่นก่อนชัดเจนทั้งโค้ดดิ้ง การตามคำสั่ง (instruction following) งานตัวแทนอัตโนมัติ (agentic) และความถูกต้อง พร้อมพารามิเตอร์ใหม่ให้ dev คุม “ความยาวคำตอบ” และ “ระดับการคิด” ได้ละเอียดขึ้น และเสริมความปลอดภัยด้วยแนวทาง safe-completions. OpenAI+2OpenAI+2
GPT-5 คืออะไร (What’s new)
-
One unified system: ระบบรวมที่มีโมเดล “เร็ว–ฉลาด” สำหรับงานทั่วไป + โมเดล “reasoning” สำหรับงานยาก และ router แบบเรียลไทม์ ที่ตัดสินใจสลับให้เองตามบริบทและความซับซ้อนของงาน ผู้ใช้ทั่วไปไม่ต้องเปลี่ยนโมเดลเองอีกต่อไป (ยังเลือก “GPT-5 Thinking/Pro” ได้หากต้องการเน้นเหตุผลยาว ๆ) และเริ่มเป็นค่าเริ่มต้นใน ChatGPT แทนรุ่นก่อนหน้าแล้ว (ทยอยปล่อยสู่ Free/Plus/Pro/Team; Enterprise/Edu ตามมา) । OpenAI
-
API รุ่นนักพัฒนา: มี สามขนาด (
gpt-5
,gpt-5-mini
,gpt-5-nano
) ให้เลือกตามค่าใช้จ่าย/latency และมีรุ่น non-reasoning สำหรับแชต (gpt-5-chat-latest
) Context สูงสุดรวม ~400k tokens (รับเข้า ~272k + เหตุผล/เอาต์พุต ~128k) เหมาะกับงานเอกสารยาว/โค้ดเบสใหญ่ ๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มพารามิเตอร์reasoning_effort=minimal
เพื่อให้ตอบเร็วขึ้นเมื่อไม่ต้องคิดลึก และverbosity
เพื่อคุม “สั้น–กลาง–ยาว” ของคำตอบ รวมถึง Custom Tools ให้เรียกใช้เครื่องมือด้วย plaintext (จำกัดด้วย regex/CFG) ไม่ต้องยึดติด JSON เสมอไป OpenAI -
ปลอดภัยและซื่อสัตย์กว่าเดิม: นำเสนอแนวทาง safe-completions ที่สลับจาก “ปฏิเสธ/ยอมทำ” แบบขาว–ดำ ไปเป็น “ช่วยอย่างปลอดภัย” ในโจทย์ dual-use พร้อมลดอัตราเพ้อ (hallucination) และพฤติกรรม “พูดเออออ” (sycophancy) อย่างมีนัยยะ เทียบกับรุ่นก่อน ๆ ตามรายงานระบบการประเมินและ system card ล่าสุด OpenAI+1cdn.openai.com
ฟีเจอร์เด่น (Dev-first)
-
Reasoning ที่สเกลได้: เลือกโหมดคิดได้ตั้งแต่ minimal/low/medium/high เพื่อบาลานซ์ “ความเร็ว vs. คุณภาพ” ให้เหมาะกับงานจริง OpenAI
-
Verbosity Control: กำกับระดับความยาวของคำตอบได้ตรง ๆ (low/medium/high) โดยคำสั่งในพรอมป์ยังมีอำนาจสูงสุด OpenAI
-
Agentic Tool Use ที่เสถียร: โซ่เครื่องมือยาว ๆ ได้ทั้งแบบลำดับและขนาน จัดการ error ได้ดีขึ้น และส่ง “preamble/progress” คั่นระหว่างทางได้ OpenAI
-
Long-context ที่ใช้ได้จริง: รวมได้ราว 400k tokens เหมาะกับเอกสาร/โค้ดเบสขนาดใหญ่ และงานค้นคืนบริบทยาว OpenAI
-
Custom Tools (plaintext): ออกแบบรูปแบบเรียกใช้เครื่องมือเองได้ (regex/grammar) เพิ่มความยืดหยุ่นของ ecosystem OpenAI
-
Safety by design: Safe-completions ทำคำตอบ “ช่วยได้และปลอดภัย” พร้อมระบบการเฝ้าระวัง/ประเมินที่ระบุใน system card OpenAIcdn.openai.com
ข้อดีที่เห็นชัด
-
ลดงานแก้ (rework) ของทีม: คำสั่งยาว ๆ/งานหลายขั้นถูกทำ “จบในรอบเดียว” มากขึ้น เพราะ reasoning+agentic tool use เสถียรกว่าเดิม OpenAI
-
ความถูกต้องดีขึ้น: อัตราความผิดพลาดเชิงข้อเท็จจริงลดลงเมื่อเทียบกับ 4o และ o3 โดยเฉพาะในโหมด reasoning ตามผลประเมินที่ OpenAI เผยแพร่ OpenAI
-
คุม “สั้น–ยาว–คิดลึก” ได้: Dev/ทีมคอนเทนต์กำหนดบุคลิก/สไตล์ และทรงของคำตอบได้แม่นกว่าเดิมผ่าน verbosity+reasoning_effort OpenAI
-
พร้อมใช้งานในองค์กร: Rolled-out เป็นดีฟอลต์ใน ChatGPT และเข้าถึงผ่าน API/ขนาดโมเดลหลายระดับ สำหรับการวางระบบจริง OpenAI
งานที่เหมาะสมกับ GPT-5 (Use-case Fit)
-
โค้ดดิ้ง end-to-end: สร้าง/แก้/รีแฟคเตอร์โปรเจ็กต์ ขยาย UI/Frontend ทั้งดีไซน์และโค้ดในคำสั่งเดียว (พร้อมอธิบายขั้นตอนระหว่างเรียกเครื่องมือ) OpenAI
-
เอกสาร/งานกฎหมาย/วิจัยยาว ๆ: วิเคราะห์ เรียบเรียง หรือค้นคืนสาระจากไฟล์/ลิงก์จำนวนมากในคอนเท็กซ์ยาว OpenAI
-
ตัวช่วยทำงานซับซ้อน (Agentic): เวิร์กโฟลว์หลายขั้นตอน เช่น จอง–ซื้อ–อัปเดตระบบหลังบ้าน หรือดูแลทิกเก็ตลูกค้า ด้วยสายโซ่เครื่องมือยาว/ขนาน OpenAI
-
คอนเทนต์มืออาชีพ: เขียน/รีไรต์ระดับ “โทน–โครง–บริบท” ปรับบุคลิกและความยาวคำตอบด้วย
verbosity
ได้ทันใจ OpenAI -
งานสุขภาพเพื่อความเข้าใจตนเอง: อธิบายผลตรวจ/ตัวเลือกการรักษาแบบรับผิดชอบ (ไม่แทนแพทย์) โดยโมเดลถูกฝึกให้รอบคอบและตรงไปตรงมามากขึ้น OpenAI
Best Case (ตัวอย่างสถานการณ์ใช้จริงที่ “เวิร์กสุด”)
-
สร้างเว็บ/แอปโปรดักชันจากโจทย์เดียว: ทีมโปรดักต์ให้บรีฟ ฟีเจอร์ และ KPI แปะดีไซน์คร่าว ๆ → GPT-5 วางสโคป สร้าง scaffold, ติดตั้ง dependency, gen โค้ด UI/Backend, รันบิลด์ แจ้งสถานะเป็นช่วง ๆ และเสนอ next steps (ใช้ tool-chain แบบขนานเพื่อลดเวลา) OpenAI
-
Support Agent อัตโนมัติที่เชื่อมระบบจริง: ดึงฐานความรู้ + คุยกับ CRM/ERP/Payment API แก้ปัญหาได้จบในแชตเดียว โดยส่ง preamble/progress ระหว่างทำงานยาวเพื่อความโปร่งใส OpenAI
-
รีเสิร์ชจากกองเอกสารขนาดใหญ่: ป้อน PDF/โน้ต/ผลวิจัยยาวหลายแสนโทเคน แล้วสั่งสรุป/โต้แย้ง/เทียบผลลัพธ์ พร้อมเชิงอ้างอิง—ทำได้จริงเพราะ context รวม ~400k tokens OpenAI
-
คอนเทนต์องค์กรแบบ “สั้นพอดีมือ” หรือ “ลงลึกทั้งแคมเปญ”: ใช้
verbosity=low
สำหรับสรุปไว หรือhigh
เมื่อต้องทำ whitepaper/คู่มือยาว พร้อมสคริปต์และ asset list OpenAI -
งาน dual-use ที่ต้องปลอดภัย: แทนการ “ปฏิเสธทื่อ ๆ” GPT-5 ให้คำตอบเชิงแนะแนวที่ปลอดภัย มีประโยชน์ และบอกขอบเขตชัด (safe-completions) OpenAI
วิธีเริ่มต้น (Quick start)
-
บน ChatGPT: ใช้ GPT-5 ได้เป็นค่าเริ่มต้นทันที เลือก “GPT-5 Thinking/Pro” เมื่ออยากให้คิดลึกเป็นพิเศษ (Pro มี reasoning ขยายเพิ่มเติม) OpenAI
-
บน API (นักพัฒนา): เริ่มจาก
gpt-5
(งานซับซ้อน),gpt-5-mini
(คุ้มค่าเน้นเร็ว),gpt-5-nano
(latency ต่ำ/งานเรียบง่าย) และgpt-5-chat-latest
สำหรับแชตทั่วไป ปรับreasoning_effort
และverbosity
ให้เหมาะกับงาน และใช้ Custom Tools เชื่อมระบบของคุณ OpenAI
คำถามพบบ่อย (FAQ)
Q: GPT-5 ต่างจาก 4o ตรงไหน?
A: ระบบ unified + router, ความสามารถ reasoning/agentic ดีขึ้นมาก, คุมความยาวคำตอบและระดับการคิดได้, context ยาวขึ้น และลด hallucination/ลด sycophancy อย่างมีนัยยะ OpenAI+1
Q: ใช้กับข้อมูลยาวมาก ๆ ได้แค่ไหน?
A: บน API รับอินพุตได้ราว 272k tokens และรวม reasoning+เอาต์พุตได้ถึง ~128k tokens รวม ~400k tokens ต่อคำขอ OpenAI
Q: ปลอดภัยขึ้นยังไง?
A: เปลี่ยนมุมการฝึกเป็น safe-completions เน้น “คำตอบที่ปลอดภัย” แทน “ตัดสินใจปฏิเสธ/ยอมทำ” แบบเดิม ช่วยทั้งความปลอดภัยและความเป็นประโยชน์ในโจทย์ dual-use OpenAI
Q: จะเลือกขนาดโมเดลไหนดี?
A: งานซับซ้อน/โค้ดดิ้งหนัก → gpt-5
; งานเร่งด่วน/คุ้มค่า → gpt-5-mini
; งาน latency ต่ำหรืออุปกรณ์จำกัด → gpt-5-nano
(เลือก gpt-5-chat-latest
หากโฟกัสแชตทั่วไป) OpenAI
เช็กลิสต์ก่อนนำไปใช้ในองค์กร
-
นิยาม งาน/ตัวชี้วัด ชัดเจน (ความเร็ว, ความถูกต้อง, ความครอบคลุม)
-
เลือก ขนาดโมเดล + reasoning/verbosity ให้เหมาะ และทดสอบกับชุดงานจริง
-
ออกแบบ Custom Tools ให้สอดคล้องสคีมาของระบบ (มี regex/grammar คุมรูปแบบ)
-
วาง การ์ดความปลอดภัย (policy, logging, human-in-the-loop) ให้รับกับ safe-completions
-
ทำ eval ต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพและความเสถียรของ tool-chain